ข่าวทรัมป์ขึ้นภาษีกดดันเม็กซิโกแก้ปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมาย - kachon.com

ทรัมป์ขึ้นภาษีกดดันเม็กซิโกแก้ปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมาย
ต่างประเทศ

photodune-2043745-college-student-s
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตันประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่31 พ.ค.ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ทวีตข้อความเมื่อวันพฤหัสบดี ว่าสหรัฐจะเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าทุกรายการจากเม็กซิโก“ทุกประเภท” ในอัตราอีก 5% เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 10 มิ.ย.เป็นต้นไป ขณะเดียวกันผู้นำสหรัฐยังกล่าวถึงการทยอยเพิ่มกำแพงภาษีต่อสินค้าของเม็กซิโกอีก จนกว่าอีกฝ่ายจะสามารถจัดการกับคาราวานผู้อพยพที่เดินทางผ่านประเทศของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่านี้
 


แม้ทรัมป์ยังไม่ได้กล่าวว่าเม็กซิโกจะต้องเผชิญกับกำแพงภาษีแบบขั้นบันไดอีกเท่าไร แต่แถลงการณ์ของทำเนียบขาวระบุว่า “หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น” กำแพงภาษีของสหรัฐต่อสินค้าของเม็กซิโกจะเพิ่มเป็น 10% ในวันที่ 1 ก.ค.นี้จากนั้นค่อยเพิ่มครั้งละ5% เรื่อยไปจนถึงอัตราสูงสุดคือ 25% ที่ตามกำหนดการของรัฐบาลวอชิงตันคือวันที่ 1 ต.ค.

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลวอชิงตันเกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังสำนักงานลาดตระเวนพรมแดนสหรัฐ( ยูเอสบีพี ) รายงานการสกัดคาราวานผู้อพยพผิดกฎหมาย 1,036 คน ที่เมืองเอลปาโซ ทางตอนใต้ของรัฐเทกซัส ถือเป็นสถิติการยับยั้งการลักลอบเข้าเมืองของผู้อพยพได้มากที่สุดภายในวันเดียว นับตั้งแต่ทรัมป์รับตำแหน่งผู้นำสหรัฐเมื่อปลายเดือนม.ค. 2560


ขณะที่ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ผู้นำเม็กซิโก แสดงท่าทีประนีประนอมต่อการที่สหรัฐเตรียมิดิ่มแรงกดดันเรื่องผู้อพยพต่อเม็กซิโกผ่านการใช้มาตรการแข็งกร้าวทางการค้า ว่าเขาไม่ต้องการเผชิญหน้า แต่คาดหวังการเจรจากับรัฐบาลวอชิงตันมากกว่า เพื่อร่วมกันแสวงหาแนวทางอื่น“ที่ดีกว่านี้” ในการแก้ไขปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมาย ด้านนายชัค แกรสลีย์ วุฒิสมาชิกรัฐไอโอวาของพรรครีพับลิกัน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการด้านการเงินของวุฒิสภาสหรัฐ เตือนว่าการเชื่อมโยงปัญหาผู้อพยพกับกำแพงภาษี อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของความร่วมมือการค้าไตรภาคี "ข้อตกลงสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา" ( ยูเอสเอ็มซีเอ) ที่ทั้งสามประเทศลงนามร่วมกันเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว สำหรับใช้แทนที่ความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ ( นาฟตา ).

เครดิตภาพ : AFP