ข่าวอิสราเอลยุบสภา หลังเนทันยาฮูตั้งรัฐบาลไม่ได้ - kachon.com

อิสราเอลยุบสภา หลังเนทันยาฮูตั้งรัฐบาลไม่ได้
ต่างประเทศ

photodune-2043745-college-student-s
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ว่าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรของอิสราเอล "คเนสเซ็ท"  มีมติเสียงข้างมากเมื่อวันพุธ 74 ต่อ 45 เสียง เห็นชอบญัตติยุบสภาและกำหนดให้วันที่ 17 ก.ย. นี้เป็นวันเลือกตั้งใหม่ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นทั้งที่พันธมิตรฝ่ายขวานำโดยพรรคลิคุดของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ชนะการเลือกตั้งและเสามารถครองเสียงข้างมาก 65 จาก 120 ที่นั่งในคเนสเซ็ท เกินเกณฑ์ข้างมากของเสียงขั้นต่ำในสภา คืออย่างน้อย 61 ที่นั่ง จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา
 

 
อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของพรรคลิคุดที่สร้างประวัติศาสตร์ให้เนทันยาฮูครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอิสราเอลสมัยที่ 5 มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ กลับกลายเป็นการยิ่งเพิ่มความร้อนระอุทางการเมืองของอิสราเอล เมื่ออัยการสูงสุดประกาศเดินหน้าสอบสวนเนทันยาฮูต่อทันทีในข้อครหาคอร์รัปชั่น แม้ยังไม่มีการตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการก็ตาม และความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงระหว่าางผู้นำอิสราเอลกับนายเอวิกดอร์ ลีเบอร์แมน อดีตรมว.กระทรวงกลาโหมและหัวหน้าพรรคยิสราเอล เบเทนู ไปร่วมกับฝ่ายค้าน ยังต้องการผ่านร่างกฎหมายให้พลเมืองที่เคร่งศาสนากลุ่ม "อัลตร้าออโธด็อกซ์" ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารเช่นเดียวกับชาวอิสราเอลทั่วไป ซึ่งประเด็นการให้กลุ่มอัลตร้าออโธด็อกซ์เข้ารับการเกณฑ์ทหารยังถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากในสังคมอิสราเอล

นายเอวิกดอร์ ลีเบอร์แมน ( คนสวมแว่น ) นั่งแถวหลังสมาชิกพรรคลิคุดที่รวมถึงนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู

ความขัดแย้งทั้งหมดส่งผลให้เนทันยาฮูและพรรคลิคุดไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ทันตามกำหนดที่ประธานาธิบดีรูเวน ริฟลิน มอบหมาย ขณะที่พันธมิตรพรรคฝ่ายค้านมีที่นั่งรวมกัน 55 ที่นั่ง ซึ่งไม่เพียงพอต่อการจัดตั้งรัฐบาลอยู่แล้ว ทุกฝ่ายจึงตัดสินใจให้มีการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ แต่การลงมติเกิดขึ้นท่ามกลางการประท้วงอย่างหนักของบรรดาสมาชิกฝ่ายค้านว่าเนทันยาฮูไม่มีศักยภาพอีกต่อไป ขณะที่ผู้นำอิสราเอลโยนว่าเป็นความผิดของลีเบอร์แมนซึ่งต้องการทำลายเสถียรภาพรัฐบาลของเขา และขัดขวางความก้าวหน้าของอิสราเอล พร้อมทั้งประกาศว่าต่อให้ต้องเลือกตั้งใหม่ พรรคลิคุดและพรรคพันธมิตรก็จะยังเป็นฝ่ายชนะ.

เครดิตภาพ : REUTERS