มาเลเซียเตรียมส่งขยะ 3,000 ตันคืน "ประเทศพัฒนาแล้ว"
ต่างประเทศ
Webmaster
2019-05-29 07:19:00
108
Webmaster
2019-05-29 07:19:00
108
-
สนับสนุนเนื่อหา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 29 พ.ค.นางเหยา บี หยิน รมว.กระทรวงพลังงานและสิ่งแวดล้อมของมาเลเซีย กล่าวเมื่อวันอังคาร ระหว่างลงพื้นที่ท่าเรือเปอลาบูฮันกลัง หรือพอร์ตกลัง ในรัฐสลังงอร์ ทางตะวันออกของประเทศ เพื่อสำรวจตู้คอนเทนเนอร์หลายร้อยตู้ซึ่งภายในเต็มไปด้วยขยะหลายชนิดที่ส่วนใหญ่เป็นพลาสติกที่ยากแก่การรีไซเคิล และยังมี "ขยะพิษ" ปนเปื้อนมาด้วย โดยนางเหยากล่าวว่าขยะเหล่านี้ประทเศต้นทาง "ลักลอบ" ขนส่งมาทิ้งที่มาเลเซียตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา จากการสำรวจในขั้นต้นเธอและเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมติว่าจะส่งตู้คอนเทนเนอร์บรรจุขยะรวม 69 ตู้ ประเมินน้ำหนักได้ประมาณ 3,000 ตัน กลับไปยังประเทศต้นทาง "ที่ไม่มีความรับผิดชอบ"
ทั้งนี้ นางเหยากล่าวถึงชื่อประเทศอย่างตรงไปตรงมา ว่าส่วนใหญ่เป็น "ประเทศที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี" ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย สหรัฐ แคนาดา จีน ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร ที่เธอเผยว่ามีการลักลอบนำขยะและสิ่งปฏิกูลหลายชนิดซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลาสติก น้ำหนักรวมมากถึง 50,000 ตัน มาทิ้งที่มาเลเซียในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศที่เธอเอ่ยชื่อถึงอย่างเปิดเผย ตรวจสอบบริษัทชิปปิ้งหรือบริษัทด้านการรีไซเคิลในประเทศของตัวเองด้วย และเตือนว่า หาก "กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว" ยังกระทำการเช่นนี้กับมาเลเซียอีก "ประเทศที่กำลังพัฒนา" อย่างมาเลเซียจะส่งขยะกลับคืนทันที "โดยไม่มีความเกรงใจเช่นกัน"
นางเหยา บี หยิน รมว.กระทรวงพลังงานและสิ่งแวดล้อมของมาเลเซีย แสดงขยะบางส่วนจากตู้คอนเทนเนอร์ที่พอร์ตกลัง
ขณะเดียวกัน นางเหยากล่าวด้วยว่า สำหรับภาคส่วนใดก็ตามในมาเลเซียที่จัดตั้งธุรกิจรับซื้อขยะผิดกฎหมายเหล่านี้ และการลักลอบรีไซเคิลขยะพลาสติก "คุณภาพต่ำ" และขยะพิษอีกหลายชนิด จนกลายเป็นปัญหาสังคมและสร้างวิกฤติสิ่งแวดล้อมในประเทศ จะต้องรับโทษตามกฎหมาย
แม้รัฐบาลของประเทศที่มาเลเซียเอ่ยชื่อถึงยังไม่แสดงท่าทีอย่างชัดเจน แต่มาเลเซียถือเป็นประเทศล่าสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เพิ่มความจริงจังในการจัดการกับปัญหา "ขยะผิดกฎหมาย" ในเวลาเดียวกับที่ฟิลิปปินส์กำลังเร่งแก้ไขข้อพิพาทเรื่องขยะกับแคนาดา ที่ยืดเยื้อมานานจนจะล่วงเข้าสู่ปีที่ 7 จนรัฐบาลมะนิลาเรียกเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำกรุงออตตาวาให้เดินทางกลับประเทศ "เป็นการด่วน" เมื่อกลางเดือนนี้.
เครดิตภาพ : AFP,AP
ทั้งนี้ นางเหยากล่าวถึงชื่อประเทศอย่างตรงไปตรงมา ว่าส่วนใหญ่เป็น "ประเทศที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี" ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย สหรัฐ แคนาดา จีน ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร ที่เธอเผยว่ามีการลักลอบนำขยะและสิ่งปฏิกูลหลายชนิดซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลาสติก น้ำหนักรวมมากถึง 50,000 ตัน มาทิ้งที่มาเลเซียในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศที่เธอเอ่ยชื่อถึงอย่างเปิดเผย ตรวจสอบบริษัทชิปปิ้งหรือบริษัทด้านการรีไซเคิลในประเทศของตัวเองด้วย และเตือนว่า หาก "กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว" ยังกระทำการเช่นนี้กับมาเลเซียอีก "ประเทศที่กำลังพัฒนา" อย่างมาเลเซียจะส่งขยะกลับคืนทันที "โดยไม่มีความเกรงใจเช่นกัน"
นางเหยา บี หยิน รมว.กระทรวงพลังงานและสิ่งแวดล้อมของมาเลเซีย แสดงขยะบางส่วนจากตู้คอนเทนเนอร์ที่พอร์ตกลังขณะเดียวกัน นางเหยากล่าวด้วยว่า สำหรับภาคส่วนใดก็ตามในมาเลเซียที่จัดตั้งธุรกิจรับซื้อขยะผิดกฎหมายเหล่านี้ และการลักลอบรีไซเคิลขยะพลาสติก "คุณภาพต่ำ" และขยะพิษอีกหลายชนิด จนกลายเป็นปัญหาสังคมและสร้างวิกฤติสิ่งแวดล้อมในประเทศ จะต้องรับโทษตามกฎหมาย
แม้รัฐบาลของประเทศที่มาเลเซียเอ่ยชื่อถึงยังไม่แสดงท่าทีอย่างชัดเจน แต่มาเลเซียถือเป็นประเทศล่าสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เพิ่มความจริงจังในการจัดการกับปัญหา "ขยะผิดกฎหมาย" ในเวลาเดียวกับที่ฟิลิปปินส์กำลังเร่งแก้ไขข้อพิพาทเรื่องขยะกับแคนาดา ที่ยืดเยื้อมานานจนจะล่วงเข้าสู่ปีที่ 7 จนรัฐบาลมะนิลาเรียกเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำกรุงออตตาวาให้เดินทางกลับประเทศ "เป็นการด่วน" เมื่อกลางเดือนนี้.
เครดิตภาพ : AFP,AP
