ข่าวเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์จวกที่ปรึกษาทรัมป์ชุดใหญ่ - kachon.com

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ว่ากระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ ว่ารัฐบาลเปียงยางไม่เคยเห็นชอบกับมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ที่ห้ามเกาหลีเหนือพัฒนาเทคโนโลยีด้านขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ เนื่องจากเป็น "สิทธิอันชอบธรรมในฐานะรัฐเอกราชที่จะปกป้องอธิปไตย" ด้วยเหตุนี้ การที่นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว กล่าวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา วิจารณ์การฝึกซ้อมรบของเกาหลีเหนือว่าเป็นการละเมิดมติของยูเอ็นเอสซีนั้น เป็นการแสดงทรรศนะที่ "เกินกว่าคำว่าโง่เขลา"
 
 
ทั้งนี้ "ความพยายาม" เจรจาระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือประสบกับภาวะชะงักงันและเข้าสู่ทางตันอีกครั้ง นับตั้งแต่ "ความล้มเหลว" จากการประชุมครั้งที่ 2 ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุด ที่กรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม เมื่อปลายเดือนก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเดิมทีทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหวังให้เป็นการต่อยอดจากสิงคโปร์ซัมมิต ที่เป็นการพบหารือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ เมื่อเดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว
 
ขณะเดียวกัน เนื้อหาในแถลงการณ์ของรัฐบาลเปียงยางยังขนานนามโบลตันเป็น "พวกบ้าสงคราม" ซึ่งภารกิจหลักในแต่ละวันคือการกระซิบข้างหูทรัมป์ให้จุดชนวนสงครามที่ประเทศนั้นประเทศนี้ พร้อมทั้งวิจารณ์ว่าการดำเนินนโยบายกลาโหมเชิงรุกหรือ "สายเหยี่ยว" เป็นโครงสร้างด้านนโยบายที่ผิดพลาดมาก เพราะเป็นการทำลายสันติภาพและความมั่นคง และทิ้งท้ายว่าโลกไม่ควรมีบุคคลเช่นโบลตัน

นางเมลาเนีย ทรัมป์ รับจานอาหารจากเชฟ โดยมีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มองอยู่ ระหว่างร่วมรับประทานอาหารที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว โดยมีนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ และนางอากิเอะ อาเบะ เป็นเจ้าภาพ
 
แถลงการณ์ดังกล่าวของเกาหลีเหนือออกมาในช่วงที่ทรัมป์กำลังเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ และกล่าวว่ายังคงมีความเชื่อมั่นใน "คำมั่นสัญญา" ของนายคิม จอง-อึน และมองการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเมื่อต้นเดือนนี้ไม่น่าส่งผลให้สถานการณ์ในภูมิภาค "บานปลายเป็นเรื่องใหญ่".

เครดิตภาพ : AP