ข่าวศึกชิงผู้นำรัฐบาลอังกฤษเปิดฉาก หลังเมย์เตรียมลาออก - kachon.com

ศึกชิงผู้นำรัฐบาลอังกฤษเปิดฉาก หลังเมย์เตรียมลาออก
ต่างประเทศ

photodune-2043745-college-student-s
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ว่าหลังนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ประกาศทั้งน้ำตาเมื่อวันศุกร์ หรือ 1 วันหลังสหราชอาณาจักรเลือกตั้งสมาชิกสภายุโรปว่าการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมของเธอจะมีผลในวันที่ 7 มิ.ย. นี้ ซึ่งจะเท่ากับเป็นการพ้นจากตำแหน่งผู้นำรัฐบาลของสหราชอาณาจักรโดยปริยาย หลังสภาสามัญปฏิเสธแผนยุทธศาสตร์เบร็กซิตโดยรัฐบาลของเธอ 3 ครั้งตั้งแต่ต้นปีนี้ แม้พรรคอนุรักษนิยมครองเสียงข้างมากในสภาสามัญ และกระบวนการสรรหาผู้นำพรรคอนุรักษนิยมคนใหม่จะเริ่มขึ้นภายใน 1 สัปดาห์หลังการพ้นตำแหน่งของเธอ ซึ่งกลายเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งอยู่ในตำแหน่งสั้นที่สุดของสหราชอาณาจักร นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองนั้น
 


นายฌอง-โคลด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ( อีซี ) ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป ( อียู ) และนายมิเชล บาร์นิเยร์ หัวหน้าคณะเจรจาเบร็กซิตของอียู กล่าวว่าสหภาพเคารพการตัดสินใจของเมย์ และยกย่อง "ความกล้าหาญ" ของเธอในการเจรจาต่อรองกับอียูตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จุดยืนของอียูในเรื่องเบร็กซิต "ยังเหมือนเดิม" นั่นคือจะไม่มีการเจรจาซ้ำอีก แต่จะยังคงหารืออย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่เมย์ยังคงอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตีของสหราชอาณาจักร เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ทุกฝ่ายว่ากระบวนการเบร็กซิตจะเป็นไปอย่าง "ราบรื่นที่สุด" แต่อียูและสมาชิกอีก 27 ประเทศยังคงมองว่ามีความเป็นไปได้มากที่เบร็กซิตจะเกิดขึ้นแบบ "ไม่มีข้อตกลง"
 
 


ขณะที่บรรดาสมาชิกแถวหน้าของพรรคอนุรักษนิยมอย่างน้อย 4 คนเสนอตัวชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ได้แก่นายเจเรมี ฮันต์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ นายลอรี สจวร์ต รัฐมนตรีด้านกิจการพัฒนาระหว่างประเทศ นางเอสเธอร์ แมคเวย์ อดีตรัฐมนตรีด้านกิจการบำนาญ และนายบอริส จอห์นสัน อดีตนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนและรมว.กระทรวงการต่างประเทศ แม้หลายฝ่ายเชื่อว่าจะมีผู้เสนอตัวมากกว่านี้ แต่บรรดาผู้สันทัดกรณียกให้จอห์นสันเป็นเต็งหนึ่งไม่ว่าจะใครเสนอตัวอีกหรือหรือไม่ โดยจอห์นสันเป็นหนึ่งในแกนนำคนสำคัญของฝ่าเบร็กซิต ในการลงประชามติเมื่อปี 2559 ซึ่งจอห์นสันกล่าวว่าหากเขาชนะการหยั่งเสียงภายในพรรค สหราชอาณาจักรจะออกจากอียูตาม "การผ่อนผันครั้งสุดท้าย" ของอียู คือวันที่ 31 ต.ค. นี้.

เครดิตภาพ : AP,REUTERS