ทรัมป์สั่งเสริมทหารในตะวันออกกลางอีก 1,500 นาย
ต่างประเทศ
Webmaster
2019-05-25 08:04:00
11
Webmaster
2019-05-25 08:04:00
11
-
สนับสนุนเนื่อหา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันศุกร์ ว่าเขาสั่งการให้กองทัพสหรัฐเพิ่มกำลังทหารในตะวันออกกลาง "อีกเล็กน้อย" แต่ "เป็นจำนวนที่มีประสิทธิภาพ" เพื่อเสริมศักยภาพด้านการป้องกันและพิทักษ์ผลประโยชน์ของอเมริกาในตะวันออกกลาง เมื่อผู้สื่อข่าวขอตัวเลขที่แน่นอน ทรัมป์กล่าวว่า "ประมาณ 1,500 นาย" และจะเสริมสรรพาวุธที่รวมถึงเครื่องบินขับไล่และระบบป้องกันขีปนาวุธด้วย โดยการเพิ่มทหารตามจำนวนดังกล่าวเป็นคนละส่วนกับการเพิ่มเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฝึกและใช้งานระบบป้องกันขีปนาวุธในตะวันออกกลาง
ขณะที่นายแพทริก ชานาฮาน รักษาการรมว.กระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวถึงคำสั่งของทรัมป์รอบนี้ว่า "เป็นการตอบสนองที่จำเป็น" ต่อสถานการณ์ในภูมิภาคซึ่งปกคลุมไปด้วยบรรยากาศตึงเครียดของ "ภัยคุกคาม" จากอิหร่าน ปัจจุบันสหรัฐมีทหารประจำการอยู่ตามฐานทัพหลายแห่งในตะวันออกกลางและอัฟกานิสถานรวมกันประมาณ 70,000 นาย ด้านรัฐบาลเตหะรานยังไม่แสดงท่าทีต่อความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐ แต่กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ( ไออาร์จีซี ) เคยกล่าวว่ารัฐบาลวอชิงตันเปลี่ยนรูปแบบนโยบายกลาโหมต่ออิหร่านเป็น "สงครามจิตวิทยา" และ "สงครามข่าวกรอง"
ในเวลาเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐส่งหนังสือถึงสภาคองเกรส แจ้งเรื่องทรัมป์อาศัยอำนาจ "สถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง" ต่ออิหร่าน ในการการเดินหน้าบรรลุข้อตกลงจำหน่ายอาวุธ 22 ฉบับ รวมมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 254,688 ล้านบาท ) โดยจะไม่รอการอนุมัติจากสภาคองเกรส ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงเป็นประเทศในตะวันออกกลาง รวมถึงซาอุดีอาระเบีย.
เครดิตภาพ : AFP,AP
ขณะที่นายแพทริก ชานาฮาน รักษาการรมว.กระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวถึงคำสั่งของทรัมป์รอบนี้ว่า "เป็นการตอบสนองที่จำเป็น" ต่อสถานการณ์ในภูมิภาคซึ่งปกคลุมไปด้วยบรรยากาศตึงเครียดของ "ภัยคุกคาม" จากอิหร่าน ปัจจุบันสหรัฐมีทหารประจำการอยู่ตามฐานทัพหลายแห่งในตะวันออกกลางและอัฟกานิสถานรวมกันประมาณ 70,000 นาย ด้านรัฐบาลเตหะรานยังไม่แสดงท่าทีต่อความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐ แต่กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ( ไออาร์จีซี ) เคยกล่าวว่ารัฐบาลวอชิงตันเปลี่ยนรูปแบบนโยบายกลาโหมต่ออิหร่านเป็น "สงครามจิตวิทยา" และ "สงครามข่าวกรอง"
ในเวลาเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐส่งหนังสือถึงสภาคองเกรส แจ้งเรื่องทรัมป์อาศัยอำนาจ "สถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง" ต่ออิหร่าน ในการการเดินหน้าบรรลุข้อตกลงจำหน่ายอาวุธ 22 ฉบับ รวมมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 254,688 ล้านบาท ) โดยจะไม่รอการอนุมัติจากสภาคองเกรส ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงเป็นประเทศในตะวันออกกลาง รวมถึงซาอุดีอาระเบีย.
เครดิตภาพ : AFP,AP
