ข่าวฝ่ายค้านอินโดฯร้องศาลรธน. "ทบทวน" ผลการเลือกตั้ง - kachon.com

ฝ่ายค้านอินโดฯร้องศาลรธน. "ทบทวน" ผลการเลือกตั้ง
ต่างประเทศ

photodune-2043745-college-student-s
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ว่านายบัมบัง วิดโจจานโต หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพล.ท.ปราโบโว ซูเบียนโต เดินทางมายังศาลรัฐธรรมนูญ ในกรุงจาการ์ตา เมื่อวันศุกร์ เพื่อยื่นเอกสารคำร้องต่อศาล ขอให้พิจารณา "ทบทวน" ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยพล.ท.ซูเบียนโต จากพรรคขบวนการอินโดนีเซียยิ่งใหญ่ ( เกอรินทรา ) ซึ่งเป็นพรรคแกนนำฝ่ายค้าน ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน 68.5 ล้านคะแนน คิดเป็น 44.5% พ่ายแพ้ซ้ำรอยการเลือกตั้งเมื่อปี 2557 ให้กับคู่แข่งคนเดิม คือประธานาธิบดีโจโค วิโดโด จากพรรคประชาธิปไตยอินโดนีเซีย-การต่อสู้ ( พีดีไอ-พี ) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ ชนะด้วยคะแนนเสียง 85.6 ล้านคะแนน หรือ 55.5%
 


อย่างไรก็ตาม พล.ท. ซูเบียนโต วัย 67 ปี ซึ่งยังคงมีอิทธิพลอยู่มาจากการเป็นอดีตบุตรเขตของอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โต ยืนยันไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง เนื่องจาก "มีการทุจริตเป็นวงกว้าง" และเชื่อมั่นว่าตัวเองคือผู้ชนะด้วยคะแนนเสียงสนับสนุนที่ "ไม่น้อยกว่า 60%" ด้านคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนุญมีกำหนดพิจารณาคำร้องนัดแรกในวันที่ 14 มิ.ย. นี้ และจะประกาศคำพิพากษาในวันที่ 28 มิ.ย. แต่พล.ท.ซูเบียนโตเคยร้องเรียนแบบเดียวกันนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ หลังการเลือกตั้งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งศาลมีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง ให้วิโดโดเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนเสียงสนับสนุน 53% ต่อ 47%

ด้านนายซันเดียกา ยูโน อดีตรองผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา วัย 49 ปี ซึ่งสมัครคู่กับพล.ท.ซูเบียนโตในตำแหน่งรองประธานาธิบดี กล่าวว่าพล.ท. ซูเบียนโต ตัวเขา และพรรคเกอรินทนา  "มีความหวังเป็นอย่างยิ่ง" ว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากศาล ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกลาง ( เคพียู ) ซึ่งประกาศรับรองผลการเลือกตั้งมากกว่า 20,000 ตำแหน่งตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงระดับชาติ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ยืนยัน "ไม่พบการทุจริต"

 

 
ส่วนบรรยากาศด้านนอกศาลรัฐธรรมนูญแม้ยังคงมีผู้ประท้วงอยู่บ้าง แต่สถานการณ์ไม่รุนแรง หลังรัฐบาลสนธิกำลังทหารร่วมกับตำรวจปราบจลาจล ซึ่งปะทะกับฝ่ายสนับสนุนพล.ท.ซูเบียนโตอย่างดุเดือด หลังเคพียูประกาศผลการเลือกตั้ง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน และได้รับบาดเจ็บมากกว่า 200 คน.

เครดิตภาพ : AFP,AP