ข่าวผู้นำอินโดฯเตือนใช้ "มาตรการเด็ดขาด" ถ้ามีจลาจลอีก - kachon.com

ผู้นำอินโดฯเตือนใช้ "มาตรการเด็ดขาด" ถ้ามีจลาจลอีก
ต่างประเทศ

photodune-2043745-college-student-s
 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ว่าประธานาธิบดีโจโค วิโดโด กล่าวถึงเหตุจลาจลหลายจุดในกรุงจาการ์ตา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่หน้าอาคารสำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลการเลือกตั้ง ( เบวาสลู ) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน และได้รับบาดเจ็บมากกว่า 200 คน จากการปะทะกันระหว่างตำรวจปราบจลาจลกับกลุ่มผู้ประท้วงซึ่งสนับสนุนพล.ท. ปราโบโว ซูเบียนโต คู่แข่งทางการเมืองของวิโดโด ซึ่งพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ว่ารัฐบาล "จะไม่อดทน" ต่อการกระทำใดก็ตามและโดยกลุ่มบุคคลใดก็ตาม หากยังคงเกิดขึ้นด้วยเจตนาสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินสาธารณะ ทำลานเสถียรภาพและความปลอดภัยของสังคม ตลอดจนกระบวนการทางประชาธิปไตย
 


 
ขณะเดียวกัน วิโดโด วัย 57 ปี กล่าวว่าเขาและนายมารูฟ อามิน วัย 76 ปี ว่าที่รองประธานาธิบดีคนใหม่ จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ในฐานะผู้นำและรองผู้นำของชาวอินโดนีเซียทุกคน โดยวาระแห่งชาติที่รอวิโดโดให้สานต่อรวมถึงการลดอัตราความยากจนที่เริ่มเห็นผลบ้างแล้ว และเดินหน้าการปฏิรูประบบโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ ซึ่งอินโดนีเซียเปิดบริการรถไฟฟ้าใต้ดินสายแรกในกรุงจาการ์ตา เมื่อปลายเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา
 


 
ต่อมาพล.ท. ซูเบียนโตตอบสนองต่อการเรียกร้องของรัฐบาล ด้วยการขอให้กลุ่มผู้สนับสนุนยุติการประท้วงและให้สลายตัว หลังมีรายงานยังคงมีผู้ชุมนุมบางส่วนปรากฏตัวตามท้องถนน และยืนยันว่าเขาจะร้องเรียนเรื่องการทุจริตเลือกตั้งตามกระบวนการ โดยจะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม พล.ท.ซูเบียนโตเคยร้องเรียนแบบเดียวกันนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ หลังการเลือกตั้งเมื่อปี 2557 ซึ่งต่อมาศาลมีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง ให้วิโดโดเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนเสียงสนับสนุน 53% ต่อ 47%

 
ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งกลางของอินโดนีเซีย ( เคพียู ) ประกาศเมื่อวันอังคาร  ว่าผลอย่างเป็นทางการของการเลือกตั้งแห่งชาติที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 17 เม.ย. ในส่วนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีนั้น ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ตัวแทนจากพรรคประชาธิปไตยอินโดนีเซีย-การต่อสู้ ( พีดีไอ-พี ) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ด้วยคะแนนเสียง 85.6 ล้านคะแนน หรือ 55.5% ชนะคู่แข่งคนเดิมจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2557 คือพล.ท.ซูเบียนโต จากพรรคขบวนการอินโดนีเซียยิ่งใหญ่ ( เกอรินทรา ) ซึ่งเป็นพรรคแกนนำฝ่ายค้าน ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน 68.5 ล้านคะแนน คิดเป็น 44.5%.

เครดิตภาพ : AP,REUTERS