ข่าวอิหร่านวิจารณ์นโยบายต่างประเทศทรัมป์ "ไม่มีจุดยืน" - kachon.com

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ว่านายโมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวเมื่อวันจันทร์ เกี่ยวกับคำกล่าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าอิหร่านไม่ควร "ข่มขู่คุกคาม" ต่อสหรัฐอีก และหากอิหร่านต้องการสู้รบ นั่นจะหมายถึงจุดจบของอิหร่าน "อย่างเป็นทางการ" ทั้งที่เขาเคยย้ำแล้วว่ายังมองไม่เห็นแนวโน้มการเกิดสงครามระหว่างทั้งสองประเทศ ว่ารัฐบาลเตหะรานไม่ให้ความสำคัญดับคำยั่วยุเช่นนี้ การอยู่ร่วมกันควรอยู่บนพื้นฐานของการให้เกียรติซึ่งกันและกันมากกว่าการข่มขู่กัน
 

ขณะเดียวกัน ซารีฟกล่าวว่านับตั้งแต่ทรัมป์เข้ามาบริหารประเทศเมื่อปลายเดือนม.ค. 2560 ผู้นำสหรัฐกลับปล่อยให้ทีมงานทำลายนโยบายต่างประเทศของเปลี่ยนไป "จนไร้คุณค่า" และพยายามจุดชนวนสงครามด้วยการเดินหน้าขายอาวุธให้นานาประเทศ ส่วนนายมาจิด ตักห์ต์ ราวานชี เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ยื่นหนังสือต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ว่าไม่ควร "วางตัวเพิกเฉย" ต่อบรรยากาศตึงเครียดในตะวันออกกลาง ที่ "รัฐภายนอก" พยายามกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง

กองเรือพิฆาตของสหรัฐในอ่าวเปอร์เซีย นำโดยเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ชั้นนิมิตซ์ "ยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น"

ในอีกด้านหนึ่ง กลายเป็นว่าผู้นำสหรัฐปรับเปลี่ยนท่าทีในเรื่องอิหร่านอีกครั้ง เมื่อกล่าวว่าเขาไม่ได้หมายความว่าทุกสิ่งที่เขาพูดออกไป "จะต้องเกิดขึ้นจริงตามนั้น" เมื่อผู้สื่อข่าวซักถามเกี่ยวกับการที่ทรัมป์และทีมงานเคยกล่าวหลายครั้งว่าอิหร่านมีพฤติการณ์ที่คุกคามผลประโยชน์ของสหรัฐในตะวันออกกลาง ผู้นำสหรัฐตอบว่า "ยังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ในเรื่องนี้" และเขาพร้อมเจรจากับอิหร่านเสมอ สวนทางกับท่าทีของนายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาว และนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งทั้งสองคนมีจุดยืนสายเหยี่ยวต่ออิหร่านมาตลอด.

เครดิตภาพ : REUTERS