ข่าวจีนส่งสัญญาณอาจไม่ขาย "สินแร่หายาก" ให้สหรัฐ - kachon.com

จีนส่งสัญญาณอาจไม่ขาย "สินแร่หายาก" ให้สหรัฐ
ต่างประเทศ

photodune-2043745-college-student-s
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลงพื้นที่เมืองก้านโจว ในมณฑลเจียงซี ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เมื่อวันจันทร์ เพื่อเยี่ยมชมการทำงานและให้กำลังใจพนักงานของบริษัท "เจแอล แม็ก แร-เอิร์ธ" ( JK MAG Rare-Earth ) ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินแร่หายากทางอุตสาหกรรม และพัฒนาสินค้าที่มีสินแร่ดังกล่าวเป็นส่วนประกอบ โดยเฉพาะอุปกรณ์ฮาร์ตเแวร์รวมถึงชิปคอมพิวเตอร์ แบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์อีกหลายชนิด ตลอดจนชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าด้วย ปัจจุบันจีนครองตลาดสินแร่หากยากมากถึง 90% ของทั้งโลก หมายความว่าแม้แต่สหรัฐยังต้องสั่งซื้อสินแร่หายากจากจีน และสินแร่หากยากเป็นสินค้าเพียงไม่กี่รายการซึ่งรอดพ้นจากกำแพงภาษีของรัฐบาลวอชิงตัน
 


 
ทั้งนี้ การปรากฏตัวของผู้นำจีนที่บริษัทเจแอล แม็ก แร-เอิร์ธ ส่งผลให้หุ้นของบริษัททะยานขึ้นมากถึง 10% ในวันเดียวกัน ด้านผู้สันทัดกรณีทั้งในและต่างประเทศมองว่า รัฐบาลปักกิ่งกำลังส่งสัญญาณไปถึงสหรัฐ ว่าจีนอาจระงับการส่งออกสินแร่หายากให้แก่ผู้ผลิตในอเมริกา ตอบโต้การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศ "ภาวะฉุกเฉินทางเทคโนโลยี" เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ห้ามผู้ประกอบการของสหรัฐค้าขายกับบริษัทเทคโนโลยี "ของต่างชาติ" หากไม่มีใบอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ ที่ทุกฝ่ายตีความไปในทางเดียวกันว่าหมายถึงบริษัทหัวเว่ยของจีน และหลังจากนั้นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐหลายแห่งนำโดยกูเกิ้ล ประกาศระงับความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับหัวเว่ย ที่จะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยไม่สามารถอัปเกรตระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้อีก ในกรณีที่กูเกิ้ลออกระบบรุ่นใหม่
 


 
หากประเด็นดังกล่าวเป็นจริงจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อสายงานอุตสาหกรรมในสหรัฐ ที่แม้มีรายงานว่ารัฐบาลวอชิงตันคาดการณ์เรื่องนี้ไว้เช่นกัน แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าสหรัฐยังต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปีกว่าจะผลิตสิ่งอื่นทดแทนสินแร่หายากเหล่านี้ได้ ขณะที่นายลู่ คัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวถึงการที่ทรัมป์กล่าวซ้ำแล้วซ้ำแล้วด้วยความมั่นใจว่า สหรัฐกับจีน "มีข้อตกลงที่ยอดเยี่ยม แต่รัฐบาลปักกิ่งเป็นฝ่ายผิดสัญญา" ว่าเขาไม่เข้าใจว่าผู้นำสหรัฐหมายถึงอะไร แต่ย่อมไม่ใช่ข้อตกลงที่จีน "เห็นชอบด้วย" อย่างแน่นอน พร้อมทั้งยืนยันว่ารัฐบาลปักกิ่งจะมีมาตรการตอบโต้ในเรื่องนี้ และขอให้ทุกฝ่าย "อดใจรอ" ท่ามกลางรายงานว่าหัวเว่ยซุ่มพัฒนาระบบปฏิบัติของตัวเองตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะประเมินสถานการณ์เอาไว้แล้วเช่นกันว่า "จะมาถึงจุดนี้ในที่สุด".

เครดิตภาพ : XINHUA,REUTERS