ข่าวเอ็กซิตโพลให้พรรครัฐบาลอินเดียชนะเลือกตั้ง - kachon.com

เอ็กซิตโพลให้พรรครัฐบาลอินเดียชนะเลือกตั้ง
ต่างประเทศ

photodune-2043745-college-student-s
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ว่าการเลือกตั้งแห่งชาติของอินเดียที่เป็นเลือกตั้งมาราธอนยาวนานกว่า 1 เดือน จนได้รับการขนานนามให้เป็น "การเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่สุดในโลก" โดยจำนวนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ซึ่งต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป อยู่ที่ประมาณ 900 ล้านคน จากจำนวนประชากรประมาณ 1,330 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ 814 ล้านคน ส่วนหน่วยเลือกตั้งมีมากกว่า 1 ล้านแห่ง เปิดฉากเมื่อวันที่ 11 เม.ย. และเสร็จสิ้นแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยการลงคะแนนของประชาชนในรัฐกลุ่มที่ 7  ได้แก่รัฐพิหาร รัฐหิมาจัลประเทศ รัฐฌาร์ขันท์ รัฐมัธยประเทศ รัฐปัญจาบ รัฐจัณฑีครห์ และรัฐอุตตรประเทศ

 

สำหรับการเลือกตั้งของอินเดียในครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งสมาชิกชุดใหม่ทั้ง 545 ที่นั่งของโลกสภาหรือสภาผู้แทนราษฎร แม้คณะกรรมการการเลือกตั้งจะเริ่มนับคะแนนและทยอยประกาศผลในวันที่ 23 พ.ค. นี้ แต่เอ็กซิตโพลของสำนักวิจัยและสำนักข่าวหลายแห่งในอินเดียเริ่มเผยแพร่ออกมาแล้ว ว่าพรรคภารติยะ ชนตะ ( บีเจพี ) ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี "อาจเสียที่นั่งไปบ้าง" แต่จะยังครองเสียงข้างมากได้อย่างเด็ดขาด คือ 287 ถึง 339 เกินเกณฑ์เสียงขั้นต่ำในการจัดตั้งรัฐบาลเป็นสมัยที่ 2 ขณะที่คู่แข่งสำคัญคือพรรคคองเกรสของนายราหุล คานธี ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเมื่อปี 2557 ทำผลงานได้ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรรค คือได้เพียง 44 ที่นั่ง "จะได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า" ซึ่งมีการคาดการณ์ไว้ระหว่าง 122 ถึง 128 ที่นั่

อย่างไรก็ตาม เอ็กซิตโพลของอินเดียเคยคลาดเคลื่อนหรือผิดพลาดมาแล้วหลายครั้งในอดีต เนื่องจากปัญหาทั้งทางเทคนิคและการร้องเรียนของบรรดาพรรคการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อการนับคะแนน เช่นเดียวกันสถานการณ์ตึงเครียดหลังเลือกตั้ง โดยมีรายงานว่าทางการรัฐเบงกอลตะวันตกสั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เนื่องจากรัฐที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศแห่งนี้เป็นพื้นที่มีความขัดแย้งทางการเมืองรุนแรงระหว่างผู้สนับสนุนพรรคบีเจพีซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวากับพรรคคองเกรสซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้าย นอกจากนี้ยังมีรายงานสถานการณ์แบบเดียวกันในรัฐปัญจาบด้วย

 
ทั้งนี้ ผู้สันทัดกรณียังคงวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของประชาชนอยู่ที่เรื่องเศรษฐกิจที่รัฐบาลโมดีใช้นโยบายประชานิยมในหลายโครงการเพื่อเรียกคะแนน และความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับปากีสถาน.
   
เครดิตภาพ : AFP,AP