ข่าวรมว.ต่างประเทศอิหร่านไม่เชื่อจะมีสงครามกับสหรัฐ - kachon.com

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ว่ากระทรวงการต่างประเทศของบาห์เรนออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ เรื่องการอพยพพลเมืองทั้งหมดออกจากอิหร่านและอิรัก อันเนื่องมาจาก "สถานการณ์ตึงเครียด" ระหว่างรัฐบาลวอชิงตันกับรัฐบาลเตหะราน  และแนวโน้มของภาวการณ์ในช่วงนี้ "ยังไม่มีเสถียรภาพ"  ในเวลาเดียวกัน บรรดาพนักงานชาวต่างชาติและชาวอิรัก "ซึ่งถือสองสัญชาติ" ประจำโรงกลั่นน้ำมันเอ็กซอนโมบิล ในจังหวัดบาสรา ทางตอนใต้ของอิรัก ทยอยอพยพออกจากพื้นที่เช่นกัน โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงสัปดาห์เดียว หลังกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐสั่งอพยพนักการทูต "ที่ไม่มีกิจจำเป็น" ออกจากอิรัก และการปิดสถานกงสุลที่จังหวัดบาสรา เมื่อเดือนต.ค. ปีที่แล้ว
 
 
อย่างไรก็ตาม นายโมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนกรุงปักกิ่ง กล่าวว่าโดยส่วนตัวเขายังมองไม่เห็นแนวโน้มของการเกิดสงครามระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน "เพราะไม่มีใครต้องการสิ่งนี้" โดยคำกล่าวของซารีฟเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวถึงการสู้รบกับอิหร่านว่า "เขาหวังว่าจะไม่เกิดขึ้น" และเชื่อมั่นว่ารัฐบาลเตหะรานจะเป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอเจรจา "ภายในอนาคตอันใกล้นี้"
 
ขณะที่พล.ต. ฮอสเซ็น ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ( ไออาร์จีซี ) กล่าวว่าการสู้รบอย่างเปิดเผยด้วยการใช้อาวุธยังไม่มีแนวโน้มเกิดขึ้น แต่ตอนนี้ทั้งสองประเทศกำลังต่อสู้กันด้วย "สงครามข่าวกรอง" และ "สงครามจิตวิทยา" พล.ต. ซาลามีกล่าวด้วยว่า การที่รัฐบาลทรัมป์เลือกเป็นฝ่ายกดดันในลักษณะนี้สะท้อนนโยบายต่างประเทศของสหรัฐที่กำลังอ่อนแอมากกว่า และก่อนหน้านั้นไม่นาน ไออาร์จีซีเคยวิจารณ์ด้วยว่า สื่อตะวันตก "บางสำนัก" มากกว่า ที่คอยโหมกระพือข่าวในเรื่องนี้ เพื่อสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน และอาจมีเจตนาสร้างผลประโยชน์ให้กับ "บุคคลบางกลุ่ม" ต่างหาก.

เครดิตภาพ : AP