ข่าวทรัมป์ไม่ต้องการ "สงครามสหรัฐ-อิหร่าน" - kachon.com

ทรัมป์ไม่ต้องการ "สงครามสหรัฐ-อิหร่าน"
ต่างประเทศ

photodune-2043745-college-student-s
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวระหว่างการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคง ที่ทำเนียบขาว เมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งประเด็นหลักเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในอ่าวเปอร์เซีย เมื่อผู้สื่อข่าวซักถามว่าจะถึงขั้นบานปลายกลายเป็นสงครามกับอิหร่านหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า "เขาหวังว่าจะไม่เกิดขึ้น" และเชื่อมั่นว่ารัฐบาลเตหะรานจะเป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอเจรจา "ภายในอนาคตอันใกล้นี้" ทั้งนี้ ในวันเดียวกันทรัมป์ยังพบหารือกับประธานาธิบดีอูลี เมาเรอร์ ผู้นำสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งทำหน้าที่ประเทศที่สามในการประสานงานด้านการทูตระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน นับตั้งแต่ผ่านพ้นช่วงปฏิวัติอิสลาม เมื่อปี 2522 ด้วย
 

 
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของทรัมป์กลับเรียกได้ว่าสวนกระแสกับบรรดาทีมงานต่างประเทศสายเหยี่ยว โดยเฉพาะนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ และนายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาว ซึ่งกล่าวถึงการที่กองทัพสหรัฐส่งกองเรือพิฆาตชุดใหญ่นำโดยเรือ "ยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น" ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ชั้นนิมิตซ์ เดินทางจากสหรัฐสู่ตะวันออกกลางตั้งแต่เดือนที่แล้ว หรือแม้แต่คำกล่าวของผู้นำสหรัฐเอง เกี่ยวกับรายงานของเดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส ซึ่งอ้างนายแพทริก ชานาฮาน รักษาการรมว.กระทรวงกลาโหม เรื่องแผนการเตรียมส่งทหารอเมริกัน "มากถึง 120,000 นาย" เข้าสู่ตะวันออกกลาง ว่าถ้าเป็นคำสั่งจากเขาจริง  ขนาดของกำลังพล "ต้องยิ่งใหญ่กว่านั้น"
 
 

ขณะที่นางซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกหญิงทำเนียบขาว กล่าวว่าผู้นำสหรัฐและทีมงาน "ไม่มีความขัดแย้งกัน" ในเรื่องอิหร่าน และทรัมป์รับฟัง "ความเห็นต่าง" จากทุกฝ่าย โดยมีรายงานมาตลอดว่าแกนนำระดับอาวุโสในสภาคองเกรสทั้งจากพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันไม่เห็นด้วยกับการที่สหรัฐจะใช้มาตรการทางทหารต่ออิหร่าน แม้ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศในเรื่องโครงการนิวเคลียร์รุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ ตั้งแต่สหรัฐเป็นฝ่ายถอนตัวเมื่อเดือนพ.ค. ปีที่แล้ว.

เครดิตภาพ : REUTERS