จีนประกาศจับกุม 2 พลเมืองแคนาดา "อย่างเป็นทางการ"
ต่างประเทศ
ทั้งนี้ รายงานโดยสำนักข่าวซินหัวเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่าคอฟริกจารกรรมข้อมูลลับทางราชการและข้อมูลด้านข่าวกรองของจีนโดยได้รับความช่วยเหลือจากสเปวอร์ ถือเป็นครั้งแรกที่ทางการจีนกล่าวหาว่าทั้งสองคน "มีความเกี่ยวข้องกัน" แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการตั้งข้อหาต่อบุคคลทั้งสอง "อย่างเป็นทางการ" และยังไม่เคยมีการนำตัวคอฟริกหรือสเปวอร์ขึ้นศาล หรือนำตัวทั้งคู่ขึ้นศาลพร้อมกัน ด้านกระทรวงการต่างประเทศแคนาดาออกแถลงการณ์แสดง "ความวิตกกังวล" ต่อการที่พลเใองของตนถูกคุมขังในจีน "อย่างไม่เป็นธรรม" แม้มีรายงานว่ามีการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่การทูตของแคนาดาเข้าเยี่ยมคอฟริกและสเปวอร์ "เป็นครั้งคราว" ก็ตาม
น.ส.เมิ่ง หว่านโจว เดินทางไปขึ้นศาลที่เมืองแวนคูเวอร์ ทางตะวันตกของแคนาดา เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา
การประกาศดังกล่าวของจีนเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศ "สถานการณ์ฉุกเฉินด้านเทคโนโลยี" ด้วยการที่ผู้ประกอบการของสหรัฐต้องขอใบอนุญาตจากรัฐบาลกลาง ในกรณีต้องการมีความร่วมมือกับบริษัทด้านเทคโนโลยี "แห่งใดก็ตาม" จากจีน ซึ่งทุกฝ่ายวิเคราะห์ไปในทางเดียวกันว่าพุ่งเป้าไปที่บริษัทหัวเว่ยของจีน ขณะที่นายราล์ฟ กูเดล รมว.กระทรวงความปลอดภัยสาธารณะของแคนาดา กล่าวว่ารัฐบาลออตตาวา "มีนโยบายของตัวเอง" ในการพิจารณาเรื่อง "ความปลอดภัย" ของหัวเว่ย ที่ตอนนี้น.ส.เมิ่ง หว่านโจว ทายาทคนโตของหัวเว่ย ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เมืองแวนคูเวอร์ตั้งแต่เดือนธ.ค. ปีที่แล้ว เพื่อสู้การถูกเนรเทศไปยังสหรัฐ ในข้อหาละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน.