ฟิลิปปินส์เลือกตั้งกลางเทอมวัดความนิยมดูเตร์เต
ต่างประเทศ
Webmaster
2019-05-13 08:15:00
10
Webmaster
2019-05-13 08:15:00
10
-
สนับสนุนเนื่อหา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ว่าชาวฟิลิปปินส์ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงมากกว่า 61 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศเกือบ 105 ล้านคน ทยอยออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อวันจันทร์ หรือเป็นการเลือกตั้งกลางเทอมสำหรับประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ซึ่งบริหารประเทศมาแล้ว 3 ปีจากวาระทั้งหมด 6 ปี โดยเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ทั้ง 297 ที่นั่ง สมาชิกวุฒิสภา 12 จาก 24 ที่นั่ง และสมาชิกสภาท้องถิ่นทั้งหมดที่รวมถึงคณะผู้บริหารเขตปกครองตนเองมินดาเนาด้วย รวมการเลือกตั้งทุกระดับเป็นการชิงตำแหน่งมากกว่า 18,000 ที่นั่ง
อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายมองการเลือกตั้งครั้งนี้เสมือน "การลงประชามติ" สอบถามความนิยมของประชาชาชน ที่มีต่อดูเตร์เตมากกว่า ซึ่งผู้นำวัย 74 ปี ชนะการเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์คนที่ 16 เมื่อเดืนมิ.ย. 2559 และดำเนินนโยบายด้วย "ความเด็ดขาด" หลายด้าน รวมถึงการปฏิรูปสังคมและการพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจ ตลอดจน "การรักษาสมดุล" ต่อความสัมพันธ์กับสหรัฐและจีน โดยเฉพาะมาตรการทางสังคมที่ใช้มาตรการเด็ดขาดแบบเดียวกับเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองดาเวานานเกือบ 3 ทศวรรษ โดยเฉพาะมาตรการปราบปรามยาเสพติด ที่แม้ภาครัฐรายงานจำนวนผู้สียชีวิต "อย่างเป็นทางการ" ไว้ที่ประมาณ 5,000 คน แต่บรรดาองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนเชื่อว่าในความเป็นจริงมีมากกว่านั้น
ขณะที่ฝ่ายค้านหวั่งเกรงว่าหากรัฐบาลยังคงรักษาการครองเสียงข้างมากในภสาล่างเอาไว้ได้ อาจนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายขยายวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดี ซึ่งรัฐบาลธรรมนูญฉบับปี 2530 จำกัดไว้ที่ 6 ปีและไม่สามารถลงสมัครซ้ำได้อีก และการแก้ไขกฎหมายเพิ่มอำนาจให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต่อสงครามยาเสพติด ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ยกเลิกบทลงโทษประหารชีวิตเมื่อปี 2530 แต่มีการรื้อฟื้น 6 ปีหลังจากนั้น ก่อนยกเลิกอีกครั้งเมื่อปี 2549
อนึ่ง ไม่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่ดูเหมือนดูเตร์เตได้วางตัว "ทายาททางการเมือง" เอาไว้แล้วในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในปี 2565 ซึ่งก็คือนางซาราห์ ดูเตร์เต-คาปิโอ บุตรสาววัย 40 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา และในระยะหลังดูเตร์เต-คาปิโอ ติดตามบิดาลงพื้นที่และออกงานรับรองเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากต่างประเทศบ่อยครั้งขึ้น.
เครดิตภาพ : AFP
อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายมองการเลือกตั้งครั้งนี้เสมือน "การลงประชามติ" สอบถามความนิยมของประชาชาชน ที่มีต่อดูเตร์เตมากกว่า ซึ่งผู้นำวัย 74 ปี ชนะการเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์คนที่ 16 เมื่อเดืนมิ.ย. 2559 และดำเนินนโยบายด้วย "ความเด็ดขาด" หลายด้าน รวมถึงการปฏิรูปสังคมและการพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจ ตลอดจน "การรักษาสมดุล" ต่อความสัมพันธ์กับสหรัฐและจีน โดยเฉพาะมาตรการทางสังคมที่ใช้มาตรการเด็ดขาดแบบเดียวกับเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองดาเวานานเกือบ 3 ทศวรรษ โดยเฉพาะมาตรการปราบปรามยาเสพติด ที่แม้ภาครัฐรายงานจำนวนผู้สียชีวิต "อย่างเป็นทางการ" ไว้ที่ประมาณ 5,000 คน แต่บรรดาองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนเชื่อว่าในความเป็นจริงมีมากกว่านั้น ขณะที่ฝ่ายค้านหวั่งเกรงว่าหากรัฐบาลยังคงรักษาการครองเสียงข้างมากในภสาล่างเอาไว้ได้ อาจนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายขยายวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดี ซึ่งรัฐบาลธรรมนูญฉบับปี 2530 จำกัดไว้ที่ 6 ปีและไม่สามารถลงสมัครซ้ำได้อีก และการแก้ไขกฎหมายเพิ่มอำนาจให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต่อสงครามยาเสพติด ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ยกเลิกบทลงโทษประหารชีวิตเมื่อปี 2530 แต่มีการรื้อฟื้น 6 ปีหลังจากนั้น ก่อนยกเลิกอีกครั้งเมื่อปี 2549
อนึ่ง ไม่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่ดูเหมือนดูเตร์เตได้วางตัว "ทายาททางการเมือง" เอาไว้แล้วในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในปี 2565 ซึ่งก็คือนางซาราห์ ดูเตร์เต-คาปิโอ บุตรสาววัย 40 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา และในระยะหลังดูเตร์เต-คาปิโอ ติดตามบิดาลงพื้นที่และออกงานรับรองเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากต่างประเทศบ่อยครั้งขึ้น.
เครดิตภาพ : AFP
