อเมริกาขึ้นภาษีเป็น 25% จากสินค้าจีน 6 ล้านล้านบาท
ต่างประเทศ
นายโรเบิร์ต ไลธิเซอร์ ผู้แทนเจรจาการค้าของรัฐบาลวอชิงตัน และนายสตีฟ มนูชิน รมว.กระทรวงการคลังสหรัฐ
ขณะที่ก่อนหน้านั้นเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าเขากำลังพิจารณาตั้งกำแพงภาษีอัตรา 25% ต่อสินค้าอื่นของจีนอีก 325,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 10.28 ล้านล้านบาท ) "ภายในอนาคตอันใกล้นี้" แต่ยังไม่ได้ระบุช่วงเวลาที่ชัดเจน โดยกล่าวว่าเป็นเพราะรัฐบาลปักกิ่งเป็นฝ่าย "ผิดสัญญา" ซึ่งผู้นำสหรัฐก็ไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจนอีกว่า “สัญญา” ที่ว่านั้นคืออะไร แม้ทรัมป์กล่าวด้วยว่า เขายังคงมีความเชื่อมั่นว่าทีมงานจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลปักกิ่งได้ในที่สุด แต่โดย่าวนตัวเขามองมาตรการกดดันด้วยการขึ้นกำแพงภาษีนั้น “เห็นผลเร็วกว่า” ต่อให้หลายฝ่ายเตือนว่า จีนจะตอบโต้ “ในระดับเดียวกัน” และผู้ประกอบการของสหรัฐโดยเฉพาะภาคเกษตรกรรมมีแนวโน้มได้รับผลกระทบมากที่สุด
นายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีของจีนและที่ปรึกษาด้านนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โบกมือทักทายสื่อมวลชน
อย่างไรก็ตาม มาตรการเพิ่มแรงกดดันด้านการค้าของสหรัฐต่อรัฐบาลปักกิ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่นายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีของจีนและที่ปรึกษาด้านนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พบหารือครั้งใหม่กับคณะผู้แทนของสหรัฐที่กรุงวอชิงตัน
อนึ่ง ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของสหรัฐระบุว่า เมื่อปีที่แล้วสหรัฐนำเข้าสินค้าจากจีนคิดเป็นมูลค่า 539,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 17.07 ล้านล้านบาท ) แต่มูลค่าการส่งออกอยู่ที่เพียง 120,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 3.8 ล้านล้านบาท ) หมายความว่าขาดดุลมากถึง 419,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 13.27 ล้านล้านบาท ) นับเป็นสถิติการขาดดุลการค้าต่อจีนสูงสุดเป็นประวัติการณ์.
เครดิตภาพ : AFP