ข่าวทรัมป์อ้างจีน "ผิดสัญญา" เป็นเหตุให้ต้องขึ้นภาษี - kachon.com

ทรัมป์อ้างจีน "ผิดสัญญา" เป็นเหตุให้ต้องขึ้นภาษี
ต่างประเทศ

photodune-2043745-college-student-s
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันพุธ เกี่ยวกับการเตรียมเพิ่มอัตราภาษี 10% สำหรับสินค้าอื่นนั้นจะเพิ่มเป็น 25% "ในวันศุกร์ที่ 10 พ.ค. นี้"  และเขากำลังพิจารณาตั้งกำแพงภาษีอัตรา 25% ต่อสินค้าอื่นของจีนอีก 325,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 10.3 ล้านล้านบาท ) "ภายในอนาคตอันใกล้นี้" ว่าเป็นเพราะรัฐบาลปักกิ่งเป็นฝ่าย "ผิดสัญญา" แต่ปฏิเสธให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าคำมั่นสัญญาที่ว่านั้นคืออะไร
 


 
ขณะที่นายโรเบิร์ต ไลธิเซอร์ หัวหน้าผู้แทนเจรจาการค้าของรัฐบาลวอชิงตัน กล่าวว่าการเจรจากับจีนจะยังคงดำเนินต่อไป แต่ในขณะเดียวกันรัฐบาลวอชิงตัน "มีความจำเป็น" ต้องเพิ่มอัตราภาษีตามการประกาศของผู้นำสหรัฐ เพื่อเป็นการ "เพิ่มแรงกระตุ้น" ให้แก่อีกฝ่าย โดยทรัมป์กล่าวเมื่อต้นสัปดาห์นี้ด้วยว่า ตลอดระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่านมา จีนจ่ายภาษีในอัตรา 25% สำหรับสินค้าด้านเทคโนโลยีมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1.59 ล้านล้านบาท ) และอีก 10% สำหรับมูลค่าการนำเข้าสินค้าประเภทอื่นรวม 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 6.39 ล้านล้านบาท ) อย่างไรก็ตาม การที่เขาตัดสินใจเลื่อนกำหนดการขึ้นอัตราภาษีสินค้าจีนรอบใหม่ออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่าการเจรจานับตั้งแต่การสงบศึกเมื่อปลายปีที่แล้ว "มีความคืบหน้า" ก่อนถึง "เส้นตาย" ซึ่งเดิมคือในวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา กลับส่งผลให้การหารือหลังจากนั้น "ไม่เป็นที่น่าพอใจ"
 



ด้านกระทรวงพาณิชย์ของจีนออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลปักกิ่งจะมีมาตรการตอบโต้ในระดับเดียวกัน "หากทรัมป์ยังไม่ยอมถอย" และเตือนว่าท่าทีของสหรัฐมีแต่จะยิ่งเพิ่มความเดือดร้อนให้ปก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของสหรัฐระบุว่า เมื่อปีที่แล้วสหรัฐนำเข้าสินค้าจากจีนคิดเป็นมูลค่า 539,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 17.16 ล้านล้านบาท )  แต่มูลค่าการส่งออกอยู่ที่เพียง 120,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (  ราว 3.82 ล้านล้านบาท ) หมายความว่าขาดดุลมากถึง 419,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 13.3 ล้านล้านบาท )  นับเป็นสถิติการขาดดุลการค้าต่อจีนสูงสุดเป็นประวัติการณ์.

เครดิตภาพ : AP,REUTERS