ทรัมป์อ้างจีน "ผิดสัญญา" เป็นเหตุให้ต้องขึ้นภาษี
ต่างประเทศ
ขณะที่นายโรเบิร์ต ไลธิเซอร์ หัวหน้าผู้แทนเจรจาการค้าของรัฐบาลวอชิงตัน กล่าวว่าการเจรจากับจีนจะยังคงดำเนินต่อไป แต่ในขณะเดียวกันรัฐบาลวอชิงตัน "มีความจำเป็น" ต้องเพิ่มอัตราภาษีตามการประกาศของผู้นำสหรัฐ เพื่อเป็นการ "เพิ่มแรงกระตุ้น" ให้แก่อีกฝ่าย โดยทรัมป์กล่าวเมื่อต้นสัปดาห์นี้ด้วยว่า ตลอดระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่านมา จีนจ่ายภาษีในอัตรา 25% สำหรับสินค้าด้านเทคโนโลยีมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1.59 ล้านล้านบาท ) และอีก 10% สำหรับมูลค่าการนำเข้าสินค้าประเภทอื่นรวม 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 6.39 ล้านล้านบาท ) อย่างไรก็ตาม การที่เขาตัดสินใจเลื่อนกำหนดการขึ้นอัตราภาษีสินค้าจีนรอบใหม่ออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่าการเจรจานับตั้งแต่การสงบศึกเมื่อปลายปีที่แล้ว "มีความคืบหน้า" ก่อนถึง "เส้นตาย" ซึ่งเดิมคือในวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา กลับส่งผลให้การหารือหลังจากนั้น "ไม่เป็นที่น่าพอใจ"
ด้านกระทรวงพาณิชย์ของจีนออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลปักกิ่งจะมีมาตรการตอบโต้ในระดับเดียวกัน "หากทรัมป์ยังไม่ยอมถอย" และเตือนว่าท่าทีของสหรัฐมีแต่จะยิ่งเพิ่มความเดือดร้อนให้ปก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของสหรัฐระบุว่า เมื่อปีที่แล้วสหรัฐนำเข้าสินค้าจากจีนคิดเป็นมูลค่า 539,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 17.16 ล้านล้านบาท ) แต่มูลค่าการส่งออกอยู่ที่เพียง 120,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 3.82 ล้านล้านบาท ) หมายความว่าขาดดุลมากถึง 419,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 13.3 ล้านล้านบาท ) นับเป็นสถิติการขาดดุลการค้าต่อจีนสูงสุดเป็นประวัติการณ์.
เครดิตภาพ : AP,REUTERS