นักบินเผยฟ้าผ่าทำให้ต้องลงจอดฉุกเฉินจนไฟลุกท่วม
ต่างประเทศ
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงมอสโกประเทศรัสเซียเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ว่า เจ้าพนักงานสอบสวนกำลังดำเนินการเพื่อหาสาเหตุถึงเครื่องบินโดยสารซูคอย ซูเปอร์เจ็ท-100 ของสายการบินแอโรฟลอตของรัสเซีย เส้นทางบินในประเทศ ที่เพิ่งจะบินขึ้นจากสนามบินเชเรเมเตียโวสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดของกรุงมอสโกเมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา แล้วต้องขอกลับมาลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินเชเรเมเตียโวแล้วเกิดไฟลุกท่วมขณะลงจอด คร่าชีวิตผู้คนไป 41 ศพ
นักบินเดนิส เยฟโดคิมอฟ เปิดเผยกับสื่อมวลชนของรัสเซียว่า เครื่องบินขาดการติดต่อกับหอบังคับการบินและจำเป็นที่จะต้องใช้โหมดฉุกเฉินควบคุมเพราะฟ้าผ่า ระหว่างเส้นทางบินในประเทศจากกรุงมอสโกจะไปยังเมืองเมอร์มานสค์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม นักบินของแอโรฟลอตไม่ได้บอกว่า เครื่องบินถูกฟ้าผ่าโดยตรง ส่วนสาเหตุที่เครื่องบินเกิดไฟลุกท่วมขณะร่อนลงจอดฉุกเฉินเพราะน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องบินมีอยู่เต็มถัง
นอกเหนือจากผู้เสียชีวิต 41 ศพแล้ว ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 9 คนในจำนวนนี้อาการยังสาหัส 3 ราย
ด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า มีชาวอเมริกันเสียชีวิตด้วย 1 ศพ และขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้สูญเสียด้วย ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้กล่าวแสดงความเสียใจและสั่งการให้สอบสวนหาสาเหตุโดยเร็ว
เครื่องบินโดยสารแบบซูคอย ซูเปอร์เจ็ท-100 ของสายการบินแอโรฟลอต พร้อมผู้โดยสาร 73 คนและลูกเรือ 5 คนรวมเป็น 78 คน ออกเดินทางจากสนามบินเชเรเมเตียโวของกรุงมอสโก เมื่อเวลา 18.02 น.ของวันอาทิตย์ที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่นักบินได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือฉุกเฉินหลังจากบินขึ้นไปได้ไม่นาน
เครดิตภาพAFP