ข่าวสหรัฐอ้าง "ข้อมูลข่าวกรอง" จึงต้องส่งกองเรือไปใกล้อิหร่าน - kachon.com

สหรัฐอ้าง "ข้อมูลข่าวกรอง" จึงต้องส่งกองเรือไปใกล้อิหร่าน
ต่างประเทศ

photodune-2043745-college-student-s
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ว่านายแพทริก ชานาฮาน รักษาการรมว.กระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวเมื่อวันจันทร์ ว่าเขาเป็นผู้อนุมัติให้ศูนย์บัญชาการกลางส่งกองเรือเฉพาะกิจ นำโดยเรือ “ยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ชั้นนิมิตซ์ ออกเดินทางจากท่าเรือในเมืองนอร์โฟล์ก ของรัฐเวอร์จิเนีย ไปยังเขตน่านน้ำสากลแถบตะวันออกกลาง โดยเฉพาะที่ใกล้กับช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งอยู่บริเวณปากอ่าวเปอร์เซีย เมื่อต้นเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับ "ข้อมูลข่าวกรองที่เชื่อถือได้" เกี่ยวกับ "ภัยคุกคาม" ที่จะเกิดขึ้นโดยกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ( ไออาร์จีซี ) แต่ปฏิเสธให้รายละเอียดเพิ่มเติม
 


ขณะที่นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงปห่งชาติประจำทำเนียบขาว เป็นคนแรกซึ่งเปิดเผยเรื่องนี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ไม่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเช่นกันว่า "ภัยคุกคาม" จากไออาร์จีซีคืออะไร แต่ทั้งสองคนกล่าวเพียงว่า อิหร่านควรยุติ "พฤติการณ์คุกคาม" และเตือนว่ารัฐบาลเตหะรานต้องรับผิดชอบต่อความเสียหาย "จากการโจมตีแบบใดก็ตาม" ที่ส่งผลกระทบต่อกองกำลังของสหรัฐหรือผลประโยชน์ของอเมริกาในตะวันออกกลาง

นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว ยืนอยู่ด้านหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
 
 

 
ด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวเพียงว่ารัฐบาลวอชิงตันได้รับรายงานด้านข่าวกรองเกี่ยวกับ "แนวโน้มของความตึงเครียด" ที่เป็นผลจากการเคลื่อนไหวทางทหารของอิหร่าน ซึ่งอาจเกี่ยวเนื่องไปถึงอิหรักและซีเรียด้วย โดยสหรัฐปิดสถานกงสุลในเมืองบาสรา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิรัก เมื่อเดือนก.ย. ปีที่แล้ว อนึ่ง ไออาร์จีซีเตือนเรื่องการปิดช่องแคบฮอร์มุซ “เพื่อตอบโต้” การที่รัฐบาลวอชิงตันประกาศเมื่อปลายเดือนที่แล้วว่า นับตั้งแต่วันที่2 พ.ค. เป็นต้นไป ไม่ว่าประเทศใดก็ตามยังคงทำการค้าขายด้านพลังงานกับอิหร่านจะเผชิญกับความเสี่ยงสูง ต่อการถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐ  ซึ่งถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านที่ลงนามร่วมกันเมื่อปี 2558 เมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว และกลับมาเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านอย่างต่อเนื่อง ด้านรัฐบาลเตหะรานยืนยันเดินหน้าส่งออกน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติต่อไป พร้อมทั้งย้ำว่า“มาตรการตามอำเภอใจ” ของสหรัฐไม่มีทางทำให้การส่งออกพลังงานของอิหร่าน “เหลือเป็นศูนย์ได้”.

เครดิตภาพ : REUTERS