สหรัฐอ้าง "ข้อมูลข่าวกรอง" จึงต้องส่งกองเรือไปใกล้อิหร่าน
ต่างประเทศ
ขณะที่นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงปห่งชาติประจำทำเนียบขาว เป็นคนแรกซึ่งเปิดเผยเรื่องนี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ไม่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเช่นกันว่า "ภัยคุกคาม" จากไออาร์จีซีคืออะไร แต่ทั้งสองคนกล่าวเพียงว่า อิหร่านควรยุติ "พฤติการณ์คุกคาม" และเตือนว่ารัฐบาลเตหะรานต้องรับผิดชอบต่อความเสียหาย "จากการโจมตีแบบใดก็ตาม" ที่ส่งผลกระทบต่อกองกำลังของสหรัฐหรือผลประโยชน์ของอเมริกาในตะวันออกกลาง
นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว ยืนอยู่ด้านหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวเพียงว่ารัฐบาลวอชิงตันได้รับรายงานด้านข่าวกรองเกี่ยวกับ "แนวโน้มของความตึงเครียด" ที่เป็นผลจากการเคลื่อนไหวทางทหารของอิหร่าน ซึ่งอาจเกี่ยวเนื่องไปถึงอิหรักและซีเรียด้วย โดยสหรัฐปิดสถานกงสุลในเมืองบาสรา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิรัก เมื่อเดือนก.ย. ปีที่แล้ว อนึ่ง ไออาร์จีซีเตือนเรื่องการปิดช่องแคบฮอร์มุซ “เพื่อตอบโต้” การที่รัฐบาลวอชิงตันประกาศเมื่อปลายเดือนที่แล้วว่า นับตั้งแต่วันที่2 พ.ค. เป็นต้นไป ไม่ว่าประเทศใดก็ตามยังคงทำการค้าขายด้านพลังงานกับอิหร่านจะเผชิญกับความเสี่ยงสูง ต่อการถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐ ซึ่งถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านที่ลงนามร่วมกันเมื่อปี 2558 เมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว และกลับมาเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านอย่างต่อเนื่อง ด้านรัฐบาลเตหะรานยืนยันเดินหน้าส่งออกน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติต่อไป พร้อมทั้งย้ำว่า“มาตรการตามอำเภอใจ” ของสหรัฐไม่มีทางทำให้การส่งออกพลังงานของอิหร่าน “เหลือเป็นศูนย์ได้”.
เครดิตภาพ : REUTERS