ข่าวทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก หลังเจรจาไม่คืบหน้า - kachon.com

ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก หลังเจรจาไม่คืบหน้า
ต่างประเทศ

photodune-2043745-college-student-s
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความต่อเนื่องเมื่อวันอาทิตย์เกี่ยวกับการเจรจาข้อพิพาทการค้ากับจีน ว่าตลอดระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่านมา จีนจ่ายภาษีในอัตรา 25% สำหรับสินค้าด้านเทคโนโลยีมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1.59 ล้านล้านบาท ) และอีก 10% สำหรับมูลค่าการนำเข้าสินค้าประเภทอื่นรวม 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 6.39 ล้านล้านบาท )
 

 
ผู้นำสหรัฐกล่าวต่อไปด้วยว่า แม้เขาตัดสินใจเมื่อปลายเดือนก.พ. ที่ผ่านมา เลื่อนกำหนดการขึ้นอัตราภาษีสินค้าจีนรอบใหม่ออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่าการเจรจานับตั้งแต่การสงบศึกเมื่อปลายปีที่แล้ว "มีความคืบหน้า" ก่อนถึง "เส้นตาย" ซึ่งเดิมคือในวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นการเจรจาหลังจากนั้นกลับมีความคืบหน้าที่ "ช้าเกินไป" ด้วยเหตุนี้ เพื่อเป็น "การเพิ่มแรงกระตุ้น" ต่อจีน  อัตราภาษี 10% สำหรับสินค้าอื่นนั้นจะเพิ่มเป็น 25% "ในวันศุกร์ที่ 10 พ.ค. นี้"  และเขากำลังพิจารณาตั้งกำแพงภาษีอัตรา 25% ต่อสินค้าอื่นของจีนอีก 325,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 10.38 ล้านล้านบาท ) ภายในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย

นายโรเบิร์ต ไลธิเซอร์ ผู้แทนเจรจาด้านนโยบายการค้าของรัฐบาลวอชิงตัน นายสตีฟ มนูชิน รมว.กระทรวงการคลัง และนายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีจีน

ทั้งนี้ รัฐบาลวอชิงตันซึ่งขาดดุลการค้าต่อจีนมานาน เพิ่มการเรียกร้องมากขึ้นในสมัยรัฐบาลทรัมป์ ให้รัฐบาลปักกิ่งเปิดเสรีต่อสินค้าของสหรัฐให้มากกว่านี้ และยุติกฎเกณฑ์เรื่องการ "แบ่งปัน" ข้อมูลด้านเทคโนโลยี เพื่อแลกกับการตั้งสำนักงานในจีน ด้านนายแลรร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวถึงการประกาศของทรัมป์ว่าคือ "คำเตือนครั้งสำคัญ" จากสหรัฐถึงจีน ซึ่งยังไม่แสดงท่าทีอย่างเป็นทางการ แต่เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า นายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีจีนและที่ปรึกษาด้านนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อาจยกเลิกเยือนกรุงวอชิงตันเพื่อการหารือครั้งใหม่กับสหรัฐในสัปดาห์นี้ หลังนายโรเบิร์ต ไลธิเซอร์ ผู้แทนเจรจาด้านนโยบายการค้าของรัฐบาลวอชิงตัน และนายสตีฟ มนูชิน รมว.กระทรวงการคลังของสหรัฐ เยือนกรุงปักกิ่ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว.

เครดิตภาพ : AP