ผู้นำเกาหลีเหนือชมการ "ฝึกซ้อมรบแบบจู่โจม"
ต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลสำคัญจากรายงานของเคซีเอ็นเอมีเนื้อหาสำคัญขัดแย้งกับข้อมูลจากสำนักงานคณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ ซึ่งออกแถลงการณ์ในวันเดียวกัน ว่าเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธ "หลายลูก" จากฐานทัพที่เมืองวอนซาน ในจังหวัดคังวอน ริมชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศ โดยขีปนาวุธชุดดังกล่าวมีพิสัยทำการระหว่าง 70 ถึง 220 กิโลเมตร จัดเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้และวัตถุทั้งหมดตกลงในเขตทะเลตะวันออก
ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ "แสดงความวิตกกังวล" ต่อสถานการณ์ดังกล่าว โดยเตือนว่าเป็นพฤติการณ์ที่ละเมิดข้อตกลงร่วมกันระหว่างสองเกาหลี พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลเปียงยางกลับคืนสุ่การร่วมเจรจา 6 ฝ่ายเพื่อการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งชะงักไปตั้งแต่ปี 2552 โดยเร็ว ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ทวีตข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าโดยส่วนตัวเขายังคงมีความเชื่อมั่นในตัวของนายคิม จอง-อึนว่าจะ "ไม่ผิดคำมั่นสัญญา" และมั่นใจว่ารัฐบาลวอชิงตันจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับอีกฝ่ายได้ในที่สุด ส่วนจีนและรัสเซียยังไม่แสดงท่าทีอย่างเป็นทางการ
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการยิงขีปนาวุธครั้งแรกของเกาหลีเหนือ นับตั้งแต่ระงับไปหลังการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป ( ไอซีบีเอ็ม ) เมื่อเดือนพ.ย. 2560 หลังจากนั้นรัฐบาลเปียงยางประกาศ "ความสำเร็จ" และ "การเสร็จสิ้น" โครงการพัฒนาด้านขีปนาวุธที่รวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ ตามด้วยการพบหารือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างผู้นำสหรัฐกับผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ที่สิงคโปร์ เมื่อเดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว และในปีเดียวกันผู้นำหนุ่มของเกาหลีเหนือยังพบหารือกับประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ผู้นำเกาหลีใต้ถึง 3 ครั้ง หนึ่งในนั้นรวมถึงการที่ผู้นำเกาหลีใต้เดินทางเยือนกรุงเปียงยาง เมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้วด้วย
กระนั้นผลการพบหารือครั้งที่ 2 ระหว่างผู้นำสหรัฐกับผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือพบหารือกันเป็นที่กรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม เมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา "ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง" กับสิงคโปร์ซัมมิต โดยทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษกันไปมาว่าเป็นต้นเหตุทำให้การประชุม "ล้มเหลว" และตามด้วยการสาดสงครามน้ำลายระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลทั้งสองประเทศจนถึงปัจจุบัน.
เครดิตภาพ : REUTERS via Korean Central News Agency ( KCNA )