ข่าวทรัมป์ "เปลี่ยนจุดยืน" เรื่องเวเนซุเอลาหลังคุยกับปูติน - kachon.com

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันศุกร์ ว่าเขาได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง เกี่ยวกับ "สถานการณ์ปัจจุบัน" หลายเหตุการณ์บนโลก รวมถึงวิกฤตการณ์ในเวเนซุเอลาด้วย ซึ่งผู้นำสหรัฐกล่าวว่ารัฐบาลมอสโกไม่ได้มีวัตถุประสงค์ "แทรกแซง" หรือ "มีส่วนเกี่ยวข้องในทางใด" ต่อสถานการณ์ในเวเนซุเอลา มากไปกว่าการได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นทุกด้านกับประเทศแห่งนี้ ซึ่งทรัมป์กล่าวต่อไปว่าเขาเองก็มีความคิดเห็นแบบเดียวกัน และต้องการมุ่งเน้นการเพิ่มการมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ชาวเวเนซุเอลาซึ่งกำลังเดือดร้อนอย่างหนักมากกว่า
 
 
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า เขาเห็นด้วยกับผู้นำรัสเซียในประเด็นที่ว่าอนาคตของชาวเวเนซุเอลาต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของชาวเวเนซุเอลาเท่านั้น ทั้งนี้ ท่าทีล่าสุดของผู้นำสหรัฐ "พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ" กับเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา เมื่อทรัมป์พบกับนางฟาบิอานา โรซาเลส ภรรยาของนายฮวน กวยโด ผู้นำฝ่ายค้านและประธานสมัชชาแห่งชาติของเวเนซุเอลา ซึ่งประกาศตัวเป็น "ผู้นำรักษาการ" เมื่อปลายเดือนม.ค. ที่ผ่านมา และสหรัฐเป็นประเทศแรกจากบรรดามากกว่า 50 ประเทศที่ให้การรับรองรองกวยโด โดยผู้นำสหรัฐกล่าวว่ารัฐบาลมอสโก ต้องถอนทหารออกจากเวเนซุเอลา และยืนยันว่ารัฐบาลวอชิงตันยังคงพิจารณา "ทุกแนวทางที่เป็นไปได้" ในการเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ไม่ว่าจะเป็นการขยายขอบเขตของมาตรการคว่ำบาตร หรือ "การใช้มาตรการทางทหาร"
 

ขณะที่นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ และนายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว ซึ่งทั้งคู่มีจุดยืนสายเหยี่ยวต่อรัฐบาลมาดูโร ยังสงวนท่าที นอกจากนั้นทรัมป์ยังกล่าวว่าเขาได้สนทนากับปูตินเกี่ยวกับรายงานการสืบสวนสอบสวนของนายโรเบิร์ต มุลเลอร์ อัยการพิเศษของสำนักงานสอบสวนกลาง ( เอฟบีไอ ) เกี่ยวกับข้อครหาว่ารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2559 ด้วยว่า "เป็นการล่าแม่มด".

เครดิตภาพ : AFP