ผู้ต้องหาสาวเวียดนามในคดี "คิมจองนัม" ได้รับอิสรภาพ
ต่างประเทศ
Webmaster
2019-05-03 08:56:00
23
Webmaster
2019-05-03 08:56:00
23
-
สนับสนุนเนื่อหา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ว่าศาลไฮคอร์ตที่เมืองชาห์ อลัม ในรัฐสลังงอร์ ทางตะวันตกของมาเลเซีย มีคำพิพากษาเมื่อวันศุกร์ ให้ปล่อยตัวน.ส.ดวน ธิ ฮวง ชาวเวียดนาม ผู้ต้องหาซึ่งยังเหลือเพียงคนเดียว ในคดีลอบสังหารนายคิม จอง-นัม พี่ชายต่างมารดาของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ด้วยการใช้สารพิษวีเอ็กซ์ ที่ท่าอากาศยานนานาชาติในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อนานกว่า 2 ปีที่แล้ว ออกจากทัณฑสถานหญิงที่เมืองกาจัง ในรัฐสลังงอร์
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังสำนักงานอัยการสูงสุดซึ่งเป็นโจทก์ ยื่นเรื่องต่อศาลเมื่อต้นเดือนที่แล้ว ขอถอนฟ้องจำเลยในข้อหาฆาตกรรม ซึ่งมีบทลงโทษสูงสุดคือการประหารชีวิต อย่างไรก็ตาม มีรายงานออกมาตลอดเกี่ยวกับการพบหารือลับหลัง ระหว่างคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานเอกอัครราชทูตเวียดนามกับพนักงานสอบสวนของมาเลเซีย และศาลมีคำพิพากษาเมื่อเดือนที่แล้ว ให้น.ส.ฮวง วัย 30 ปี รับโทษจำคุกเป็นเวลา 3 ปีกับอีก 4 เดือน หลังให้การรับสารภาพในข้อหาเจตนาทำร้ายผู้อื่นด้วยวัตถุอันตราย ซึ่งมีบทลงโทษสูงสุดคือ 10 ปี พร้อมการปรับเงินหรือการเฆี่ยน แต่การที่ผู้ต้องหาถูกจับกุม และรับโทษจำคุกเพียงไม่กี่วันหลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2560 ให้นับรวมระยะเวลาดังกล่าว เท่ากับว่าหญิงสาวได้รับอิสรภาพในวันที่ 3 พ.ค. พอดี
รถตู้ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่ามีน.ส.ดวน ธิ ฮวง เป็นหนึ่งในผู้โดยสาร เดินทางออกจากเรือนจำหญิงที่เมืองกาจัง ในรัฐสลังงอร์ของมาเลเซีย ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่
ทั้งนี้ การปล่อยตัวน.ส.ฮวงเกิดขึ้นนานกว่า 1 เดือน หลังอัยการมาเลเซีย "สร้างเซอร์ไพรส์" ด้วยการถอนฟ้องน.ส.สิตี ไอซยาห์ จำเลยร่วมชาวอินโดนีเซีย และต่อมาศาลสั่งปล่อยตัวไอซยาห์วัย 27 ปี ขณะที่องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ ( ตำรวจสากล ) หรืออินเตอร์โพล ออกหมายแดงต่อพลเมืองสัญชาติเกาหลีเหนือ 4 คน ฐานเป็น "ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ" ในคดีนี้ แต่จนถึงปัจจุบันไม่มีความคืบหน้าใด.
เครดิตภาพ : AP,REUTERS
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังสำนักงานอัยการสูงสุดซึ่งเป็นโจทก์ ยื่นเรื่องต่อศาลเมื่อต้นเดือนที่แล้ว ขอถอนฟ้องจำเลยในข้อหาฆาตกรรม ซึ่งมีบทลงโทษสูงสุดคือการประหารชีวิต อย่างไรก็ตาม มีรายงานออกมาตลอดเกี่ยวกับการพบหารือลับหลัง ระหว่างคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานเอกอัครราชทูตเวียดนามกับพนักงานสอบสวนของมาเลเซีย และศาลมีคำพิพากษาเมื่อเดือนที่แล้ว ให้น.ส.ฮวง วัย 30 ปี รับโทษจำคุกเป็นเวลา 3 ปีกับอีก 4 เดือน หลังให้การรับสารภาพในข้อหาเจตนาทำร้ายผู้อื่นด้วยวัตถุอันตราย ซึ่งมีบทลงโทษสูงสุดคือ 10 ปี พร้อมการปรับเงินหรือการเฆี่ยน แต่การที่ผู้ต้องหาถูกจับกุม และรับโทษจำคุกเพียงไม่กี่วันหลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2560 ให้นับรวมระยะเวลาดังกล่าว เท่ากับว่าหญิงสาวได้รับอิสรภาพในวันที่ 3 พ.ค. พอดี
รถตู้ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่ามีน.ส.ดวน ธิ ฮวง เป็นหนึ่งในผู้โดยสาร เดินทางออกจากเรือนจำหญิงที่เมืองกาจัง ในรัฐสลังงอร์ของมาเลเซีย ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ทั้งนี้ การปล่อยตัวน.ส.ฮวงเกิดขึ้นนานกว่า 1 เดือน หลังอัยการมาเลเซีย "สร้างเซอร์ไพรส์" ด้วยการถอนฟ้องน.ส.สิตี ไอซยาห์ จำเลยร่วมชาวอินโดนีเซีย และต่อมาศาลสั่งปล่อยตัวไอซยาห์วัย 27 ปี ขณะที่องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ ( ตำรวจสากล ) หรืออินเตอร์โพล ออกหมายแดงต่อพลเมืองสัญชาติเกาหลีเหนือ 4 คน ฐานเป็น "ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ" ในคดีนี้ แต่จนถึงปัจจุบันไม่มีความคืบหน้าใด.
เครดิตภาพ : AP,REUTERS
