สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ว่าสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะเสด็จออก ณ ห้องต้นสน ซึ่งเป็นท้องพระโรงภายในพระราชวังอิมพีเรียล เมื่อวันพุธ เพื่อทรงรับการถวายพระพรชัยมงคลจากพระบรมวงศานุวงศ์ นำโดยเจ้าชายฟุมิฮิโตะ เจ้าอะกิชิโนะ มกุฎราชกุมารและพระอนุชาในสมเด็จพระจักรพรรดิ และเจ้าหญิงคิโกะ มกุฎราชกุมารีและพระวรชายา
อนึ่ง ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ พระชนมพรรษา 59 พรรษา พระราชทานพระปฐมบรมราชโองการในการเสด็จขึ้นครองราชย์ มีสาระสำคัญว่าพระองค์จะทรงสานต่อพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงอากิฮิโต และสมเด็จพระจักรพรรดินีพระพันปีหลวงมิชิโกะ พระราชบิดาและพระราชมารดาในสมเด็จพระจักรพรรดิและมกุฎราชกุมารพระองค์ปัจจุบัน ขณะเดียวกัน พระองค์จะทรงมุ่งมั่นปฏิบัติพระราชกรณียกิจในฐานะศูนย์รวมจิตใจ และเพื่อความเป็นเอกภาพของพสกนิกรชาวญี่ปุ่นทุกหมู่เหล่า "ด้วยความใกล้ชิด" ตลอดจนเพื่อความเป็นปึกแผ่นของบ้านเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งพระราชทานพรให้พสกนิกรชาวญี่ปุ่นและชาวโลกจงมีแต่ความสุขสำราญและพบแต่ความสันติสุขโดยทั่วกัน
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นจะยังคงมีพระราชพิธีเฉลิมฉลองการเสด็จขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่ ซึ่งเป็นพระองค์ที่ 126 แห่งราชวงศ์ยามาโตะหรือราชวงศ์ดอกเบญจมาศ จะมีขึ้นเป็นระยะเรื่อยไปทั้งในส่วนที่จัดโดยสำนักพระราชวังตามโบราณราชประเพณี และพระราชพิธีที่รัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบ ตลอดจนการเฉลิมฉลองโดยภาคประชาชนที่จัดกิจกรรมทั้งการเปิดสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การเขียนตัวอักษรมงคล และการจดทะเบียนสมรสในรัชสมัยเรวะที่ 1 ซึ่งหมายถึงความสงบ ความเป็นระเบียบ ความสามัคคี และความปรองดองอันดีงาม เพื่อความเป็นมงคลแก่ชีวิตคู่ ส่วนพระราชพิธีใหญ่คือพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจะมีขึ้นในวันที่ 22 ต.ค. นี้.