สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตทรงประกาศสละราชสมบัติ
ต่างประเทศ
สำหรับห้องต้นสนมีความพิเศษและแตกต่างจากห้องทุกห้องภายในพระราชวังแห่งนี้ตามชื่อของห้อง เนื่องจากเป็นห้องเดียวที่พื้นห้องปูด้วยไม้จากต้นเซลโควาซึ่งปลูกในประเทศ และผนังห้องได้รับการประดับตกแต่งเป็นลวดลายของใบต้นสน
ขณะที่เจ้าพนักงานนำกล่องบรรจุเครื่องราชกกุธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 ชิ้น ได้แก่ พระแสงขรรค์ชัยศรี พระฉายหรือกระจก และสายสร้อยพระสังวาลประดับเนาวรัตน์ ตลอดจนตราพระราชลัญจกรดอกเบญจมาศซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ประจำราชวงศ์ยามาโตะ เข้ามาวางยังแท่นหน้าพระพักตร์ แต่ไม่มีการเปิดกล่องอย่างเด็ดขาดตามโบราณราชประเพณี ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้นำรัฐบาลญี่ปุ่น ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตในฐานะผู้แทนของพสกนิกรชาวญี่ปุ่นทั้งมวล ถวายพระพรชัยมงคลและกล่าวแสดงความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ตลอดระยะเวลา 31 ปีของการทรงครองสิริราชสมบัติซึ่งเป็นไปด้วยความร่มเย็นตลอดมา พร้อมทั้งทรงยกย่องพระองค์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดินักปฏิรูปด้วย
นอกจากนี้ พสกนิกรชาวญี่ปุ่นจะไม่มีวันลืมเลือนช่วงเวลาที่สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตและสมเด็จพระจักรพรรดินีทรงอยู่ร่วมกับพสกนิกร ก่อนปิดท้ายด้วยการทรงขออำนาจสิ่งศักด์สิทธิ์ทั้งหลายอำนวยพรให้ทั้งสองพระองค์มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ทั้งนี้ นอกจากอาเบะแล้ว นางอากิโกะ อาเบะ ภริยานายกรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา และคณะตุลาการศาลฎีการ่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
ด้านสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตพระราชทานกระแสพระราชดำรัสตอบว่า พระองค์ทรงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติและความไว้วางใจ ตลอดจนความสนับสนุนและความปรารถนาดีจากพสกนิกรที่พสกนิกรมอบให้แก่พระองค์และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะตลอดระยะเวลาที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติและทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่ทั้งสองพระองค์ทรงเต็มพระทัยปฏิบัติด้วยความยินดียิ่ง และพระราชทานพรให้ญี่ปุ่นก้าวเข้าสู่รัชสมัยใหม่อย่างสงบและสันติสุขต่อไป พร้อมทั้งทรงขอให้โลกใบนี้มีแต่สันติภาพด้วย โดยพระราชพิธีใช้เวลาเพียง 10 นาที
สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตเสด็จพระดำเนินไปทรงถวานราชสักการะและกราบลาเทพอามาเทราสึ ในเขตพระราชฐานของพระราชวังอิมพีเรียล
อนึ่ง ก่อนมีพระราชิพิธี ณ ห้องต้นสน สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตเสด็จพระดำเนินไปยังศาลเจ้าคาชิโดะโคะโระ ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตพระราชฐานของพระราชวังอิมพีเรียล ในกรุงโตเกียว เมื่อช่วงเช้าของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น เพื่อทรงประกอบพระราชพิธีถวายราชสักการะและกราบลาเทพอามาเทราสึ หรือ "สุริยเทพ" ตามความเชื่อของศาสนาชินโต ว่าสมเด็จพระจักรพรรดิทุกพระองค์ทรงสืบเชื้อสายจากเทพอามาเทราสึ ถือเป็นพระราชพิธีแรกอย่างเป็นทางการของการสละราชสมบัติ หลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปยังศาลเจ้าอิเสะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองอิเสะ ในจังหวัดมิเอะ ที่อยู่ทางตอนกลางของประเทศ เพื่อทรงประกอบพระราชพิธีถวายราชสักการะเครื่องราชกกุธภัณฑ์ และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงถวายราชสักการะที่สุสานหลวงของอดีตสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโต พระราชบิดา ที่เมืองฮาจิโอจิ ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว
สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต พระชนมพรรษา 85 พรรษา ตั้งแต่เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อเดือนม.ค. 2532 ทรงเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์แรกในรอบ 2 ศตวรรษของญี่ปุ่น ซึ่งทรงสละราชสมบัติให้แก่พระราชโอรสพระองค์ใหญ่หรือมกุฎราชกุมาร นับตั้งแต่สมเด็จพระจักรพรรดิโคกะกุ ในรัชสมัยเอโดะ เมื่อปี 2360 ทั้งนี้ รัชสมัยเฮเซซึ่งปัจจุบันเป็นปีเฮเซที่ 31 จะสิ้นสุดในเวลาเที่ยงคืนตรง เมื่อล่วงเข้าสู่วันที่ 1 พ.ค. ญี่ปุ่นจะเข้าสู่รัชสมัยใหม่ชื่อ “เรวะ” ที่ความหมายโดยรวมสื่อถึงความสงบ ความเป็นระเบียบ ความสามัคคี และความปรองดองอันดีงาม โดยองค์รัชทายาทหรือมกุฎราชกุมารคือเจ้าชายนารุฮิโตะจะเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ที่ 126 ขณะที่พระวรชายาคือเจ้าหญิงมาซาโกะ มกุฎราชกุมารี จะเสด็จขึ้นเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินี และพระรราชะิธีบรมราชาภิเษกจะมีขึ้นในวันที่ 22 ต.ค.นี้.
เครดิตภาพ : AFP