ข่าวสถิติผู้ป่วยโรคหัดในสหรัฐสูงที่สุดในรอบ 25 ปี - kachon.com

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ว่าศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐ ( ซีดีซี ) ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโรคหัดในประเทศอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นสถิติสะสมนับตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา อยู่ที่ 704 คน พบใน 22 รัฐ เพิ่มขึ้น 1.3% จากสถิติ 695 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นสถิติสูงที่สุดทั้งที่กระทรวงสาธารณสุขเคยประกาศให้โรคหัดหมดไปจากประเทศเมื่อปี 2543 ซึ่งก่อนหน้านั้นเมื่อปี 2537 สหรัฐพบผู้ป่วยจากโรคหัดในประเทศสูงถึง 963 คน
 

สำหรับพื้นที่มีการแพร่ระบาดสูงที่สุดคือรัฐนิวเจอร์ซีย์ และรัฐนิวยอร์กซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของนครนิวยอร์ก เมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดในสหรัฐ โดยเขตซึ่งระบาดหนักที่สุดคือเขตบรูคลิน ขณะที่นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขแบบเจาะจงครอบคลุมทั้งเขตบรูคลิน เมื่อต้นเดือนเม.ย. และลงนามในคำสั่งเทศบัญญัติให้ประชาชนทุกคนซึ่งอาศัยอยู่ในเขตบรูคลินต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่เข้ารับการฉีดวัคซีน หรือไม่สามารถแสดงหลักฐานว่ารับการฉีดวัคซีนแล้วเมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบหลักฐาน อาจต้องชำระค่าปรับสูงถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 31,940 บาท )


แม้ยังไม่มีการพบผู้เสียชีวืตจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคหัดในสหรัฐคราวนี้ แต่หลายฝ่ายยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับ "ลัทธิต่อต้านการฉีดวัคซีน" เนื่องจากแม้สถิติเด็กเล็กวัยก่อนเข้าอนุบาลในสหรัฐเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด โรคคางทูม และโรคหัดเยอรมัน สูงถึง 94% เมื่อปี 2560 แต่หลังจากนั้นกลับลดลง ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรียกร้องประชาชนทุกคนไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กควรเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดให้ครบตามคำแนะนำของแพทย์.

เครดิตภาพ : AFP