จาก "เฮเซ"สู่"เรวะ" ญี่ปุ่นผลัดแผ่นดินครั้งสำคัญในรอบ 200 ปี
ต่างประเทศ
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนส.ค. 2559 สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตพระราชทานกระแสพระราชดำรัสผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ โดยที่พระองค์ไม่ได้ตรัสโดยตรงแม้เพียงคำเดียวว่าทรงมีพระราชประสงค์สละราชสมบัติ แต่การตรัสแสดงความกังวลพระทัยเกี่ยวกับพระพลานามัยและพระชนมพรรษาที่มากขึ้น จึงทรงหวั่นเกรงว่าจะทรงไม่สามารถปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรได้อย่างเต็มที่ และสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตทรงขอให้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ “ช่วยพิจารณา” พระราชดำรัสของพระองค์ ซึ่งทุกฝ่ายแปลความไปในทางเดียวกันได้ทันที ว่าหมายความถึงพระราชประสงค์ของสมเด็จพระจักรพรรดิในการทรงสละราชสมบัติให้แก่องค์รัชทายาท
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่กฎมณเฑียรบาลของญี่ปุ่นยังคงมีข้อจำกัดที่กำหนดให้การสืบทอดราชบัลลังก์เกิดขึ้นได้เมื่อสมเด็จพระจักรพรรดิเสด็จสวรรคตเท่านั้น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ท่ามกลางเสียงสนับสนุนจากประชาชน รัฐสภาของญี่ปุ่นผ่านร่างกฎหมายฉบับพิเศษแบบใช้ครั้งเดียวฉบับแรกในรอบ 200 ปี เมื่อเดือนมิ.ย. 2560 เตรียมจัดการพระราชพิธีสละราชสมบัติให้แก่สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต ซึ่งทรงต้องการรักษาบทบาทของสถาบันให้คงอยู่อย่างร่มเย็นและสามารถเป็นที่พึ่งทางจิตใจให้แก่พสกนิกร และไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองมากจนเกินไปดังเช่นในรัชสมัยโชวะของสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโต พระราชบิดาของพระองค์ ซึ่งทรงมีบทบาทอย่างมากด้วยพระองค์เองในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
ขณะเดียวกัน สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตทรงมีความเป็น “นักปฏิรูป” พระองค์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์แรกซึ่งทรงอภิเษกสมรสกับหญิงสามัญชน โดยสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะทรงมีพระนามเดิมว่าน.ส.มิชิโกะ โชดะ นอกจากนี้ สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตยังทรงมีรับสั่งว่าเมื่อพระองค์เสด็จสวรรคต พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์เรื่องการรับพระราชทานเพลิง มากกว่าทรงฝังพระบรมศพที่สุสานหลวงที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมานาน
สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตเสด็จฯไปทรงเคารพสุสานหลวงของอดีตสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโต พระราชบิดา ที่เมืองฮาจิโอจิ ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว
ส่วนกำหนดการเบื้องต้นเกี่ยวกับพระราชพิธีสถาปนาองค์รัชทายาทในเบื้องต้นกำหนดไว้ในปีหน้า ซึ่งแน่นอนคือเจ้าชายฟุมิฮิโตะ เจ้าอะกิชิโนะ พระอนุชาในเจ้าชายนารุฮิโตะ แม้เคยมีกระแสเกี่ยวกับการแก้ไขกฎมณเฑียรบาลเรื่องการสืบทอดราชสมบัติให้แก่รัชทายาทซึ่งเป็นหญิง โดยเจ้าชายนารุฮิโตะและเจ้าหญิงมาซาโกะมีพระธิดาร่วมกันพระองค์เดียว คือเจ้าหญิงไอโกะ พระชันษา 17 ปี แต่รัฐบาลญี่ปุ่นแทบทุกสมัยมีความเป็นอนุรักษ์นิยมสูงในเรื่องธรรมเนียมโบราณ
ทั้งนี้ ภายหลังการเปลี่ยนรัชสมัย สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตและสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะจะทรงดำรงสถานะ สมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงและสมเด็จพระจักรพรรดินีพระพันปีหลวงตามลำดับ ทั้งสองพระองค์จะทรงงาน “เป็นการส่วนพระองค์” ที่จะไม่มีความเกี่ยวข้องกับสำนักพระราชวังอีก แม้พระราชพิธีขึ้นทรงราชย์และพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่ ซึ่งทั้งสองพระองค์จะไม่ทรงเข้าร่วม โดยหลังสิ้นสุดรัชสมัยเฮเซอย่างเป็นทางการ สมเด็จพระจักรพรรดิพระเจ้าหลวงและสมเด็จพระจักรพรรดินีพระพันปีหลวงจะทรงย้ายที่ประทับไปยังกระตำหนักอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งจะยังคงอยู่ภายในอาณาเขตของพระราชวังอิมพีเรียล ก่อนทรงย้ายออกอีกครั้งไปยังพระตำหนักที่อยู่นอกรั้วพระราชวัง.
เครดิตภาพ : AFP,AP