ญี่ปุ่นเตรียมเข้าสู่ร่มพระบารมีของจักรพรรดิพระองค์ใหม่
ต่างประเทศ
ทั้งนี้ เจ้าชายนารุฮิโตะจะไม่ได้ทรงเป็นเพียงสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์แรกในประวัติศาสตร์ของประเทศซึ่งเสด็จพระราชสมภพหลังสงครามโลกครั้งที่สองเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์แรกซึ่งทรงไม่มีพระพี่เลี้ยง แต่ทรงได้รับการเลี้ยงดูโดยตรงจากพระราชบิดาและพระราชมารดา โดยเจ้าชายนารุฮิโตะทรงมีกล่องข้าวไปโรงเรียนและเสวยร่วมกับพระสหายซึ่งเป็นสามัญชน ตามความประสงค์ของพระราชมารดาซึ่งต้องการให้พระราชโอรสทรงใกล้ชิดกับบรรดาพระสหายร่วมชั้นเรียน ต่อจากนั้นเจ้าชายนารุฮิโตะทรงศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา โดยทรงสำเร็จการศึกษาระดับมหาบัณฑิต และทรงเคยศึกษาในต่างประเทศคือสหราชอาณาจักร ซึ่งพระองค์เคยตรัสว่าช่วงเวลาในต่างประเทศเป็นหนึ่งในช่วงเวลา “ยอดเยี่ยม” ที่สุดในชีวิตของพระองค์ เนื่องจากเป็นโอกาสดีในการเปิดโลกทัศน์ให้แก่พระองค์
สำหรับชีวิตส่วนพระองค์นั้น เจ้าชายนารุฮิโตะทรงเสกสมรสกับน.ส.มาซาโกะ โอวาดะ หญิงสาวซึ่งมีความมุ่งมั่นในการเป็นนักการทูตตามรอยบิดา รายงานระบุว่าเจ้าชายนารุฮิโตะทรงพบกับโอวาดะที่งานเลี้ยงน้ำชา เมื่อปี 2529 และทรงมีความสนพระทัยในตัวหญิงสาวผู้นี้นับจากนั้น แต่ฝ่ายหญิงกลับปฏิเสธมาตลอด เนื่องจากต้องการทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงนั่นคือการเป็นนักการทูต แต่เรื่องราวกลายเป็นข่าวในปีต่อมา แม้โอวาดะเดินทางไปศึกษาต่อยังสหราชอาณาจักร แต่เจ้าชายนารุฮิโตะยังทรงรอ “รักแรกพบ” ของพระองค์ จนกระทั่งโอวาดะสำเร็จการศึกษาและเดินทางกลับมายังญี่ปุ่น เธอตอบรับคำขอแต่งงานจากเจ้าชายในที่สุดเมื่อปลายปี 2535 ซึ่งเป็นการขอแต่งงานครั้งที่ 3 โดยมีรายงานว่าเจ้าชายนารุฮิโตะทรงให้เหตุผลประกอบการขอแต่งงานครั้งนี้ด้วยว่า แม้จะเข้าสู่ราชสำนักแต่พระกรณียกิจก็ถือเป็น “งานทางการทูต” ได้เช่นกัน
สำนักพระราชวังประกาศเรื่องการหมั้นและตามด้วยพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายนารุฮิโตะกับโอวาดะในเดือนเม.ย.2536 หลังจากนั้นโอวาดะได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็นเจ้าหญิงมาซาโกะ มกุฎราชกุมารี ทั้งสองพระองค์มีพระธิดาร่วมกันพระองค์หนึ่ง คือเจ้าหญิงไอโกะ ปัจจุบันทรงมีพระชันษา 17 ปี
สมเด็จพระจักรพรรดิอิากฮิโตทรงรับการทูลเกล้าฯถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ 3 ชิ้น ในพระราชพิธีขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2532
ทั้งนี้ เจ้าชายนารุฮิโตะจะทรงเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ที่ 126 ของญี่ปุ่น การเสด็จขึ้นครองราชย์จะมีขึ้นในวันที่ 1 พ.ค. และพระราชพิธีจะใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดยขั้นตอนการทรงรับการขึ้นทรงราชย์จำกัดผู้ที่อยู่ในพระราชพิธีเฉพาะผู้ชายเท่านั้น และตลอดพิธีจะเป็นไปด้วยความเงียบ จ้าชายนารุฮิโตะจะทรงรับการทูลเกล้าฯถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ 3 ชิ้นจากเจ้าพนักงาน เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนดังกล่าว พระองค์จะเสด็จออกเพื่อทรงรับการถวายพระพรจากนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ และคณะรัฐมนตรี พร้อมทั้งจะพระราชทานกระแสพระราชดำรัสครั้งแรกอย่างเป็นทางการในฐานะสมเด็จพระจักรพรรดิ ขณะที่พระราชพิธีบรมราชาภิเษกจะมีขึ้นในวันที่ 22 ต.ค.นี้.
เครดิตภาพ : AP,AFP