พรรคสังคมนิยมชนะเลือกตั้งสเปน แต่กระแสขวาจัดมาแรง
ต่างประเทศ
Webmaster
2019-04-29 07:31:00
21
Webmaster
2019-04-29 07:31:00
21
-
สนับสนุนเนื่อหา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมาดริด ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ว่าผลอย่างไม่เป็นทางการของการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 3 ในรอบ 4 ปีของสเปน ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ทั้ง 350 ที่นั่ง และสมาชิกวุฒิสภา 208 จาก 266 ที่นั่ง ปรากฏว่าจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์อยู่ที่ประมาณ 26.3 ล้านคน คิดเป็น 75.8% โดยในส่วนของการเลือกตั้งส.ส.นั้น พรรคสังคมนิยม ( พีเอสโออี ) ซึ่งมีจุดยืนสายกลาง-ซ้าย ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ได้รับการเลือกตั้งเข้ามามากที่สุดเกือบ 29% หรือ 123 ที่นั่ง คิดเป็นคะแนนดิบประมาณ 7.4 ล้านคะแนน ตามด้วยพรรคประชานิยม ( พีพี ) ซึ่งมีจุดยืนสายกลาง-ขวา และเป็นพรรคแกนนำฝ่ายค้านของนายปาโบล กาซาโด ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนเกือบ 17% คิดเป็น 66 ที่นั่ง หรือคะแนนดิบประมาณ 4.3 ล้านคะแนน
อย่างไรก็ตาม การที่ไม่มีพรรคใดได้รับเลือกตั้งเข้ามาเกินเกณฑ์ขั้นต่ำของเสียงข้างมากในสภาล่าง คืออย่างน้อย 176 ที่นั่ง หมายความว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะยังคงต้องเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งซานเชซต้องตัดสินใจระหว่างการหารือกับพรรคพีพีซึ่งเป็นพรรคใหญ่ในการร่วมรัฐบาล แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ทำผลงานได้แย่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ หรือการรวมเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมืองขนาดเล็กรองลงมา ซึ่งผู้สันทัดกรณีคาดการณ์ว่าซานเชซ วัย 47 ปี ซึ่งขั้นสู่ตำแหน่งผู้นำรัฐบาลเมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว จากการชนะญัตติไม่ไว้วางใจซึ่งส่งผลให้นายมาริอาโน ราฆอย ต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพีพี น่าจะเจรจากับพรรคอันดับ 3 และ 4 คือพรรคซิวดาดาดนอส ( ซีเอส ) ซึ่งเป็นสายประชานิยมและพรรคโปเดมอส ซึ่งเป็นพรรคซ้ายจัด แต่ผู้สนับสนุนพรรคพีเอสโออีส่วนใหญ่ไม่ต้องการการร่วมรัฐบาลกับพรรคพีพี
The issue of Catalan independence looms large with parties split over whether to be soft or tough on the separatist movement #EleccionesGenerales28A pic.twitter.com/4DXQXhD3W2— Al Jazeera English (@AJEnglish) April 28, 2019
อย่างไรก็ตาม การที่ไม่มีพรรคใดได้รับเลือกตั้งเข้ามาเกินเกณฑ์ขั้นต่ำของเสียงข้างมากในสภาล่าง คืออย่างน้อย 176 ที่นั่ง หมายความว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะยังคงต้องเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งซานเชซต้องตัดสินใจระหว่างการหารือกับพรรคพีพีซึ่งเป็นพรรคใหญ่ในการร่วมรัฐบาล แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ทำผลงานได้แย่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ หรือการรวมเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมืองขนาดเล็กรองลงมา ซึ่งผู้สันทัดกรณีคาดการณ์ว่าซานเชซ วัย 47 ปี ซึ่งขั้นสู่ตำแหน่งผู้นำรัฐบาลเมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว จากการชนะญัตติไม่ไว้วางใจซึ่งส่งผลให้นายมาริอาโน ราฆอย ต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพีพี น่าจะเจรจากับพรรคอันดับ 3 และ 4 คือพรรคซิวดาดาดนอส ( ซีเอส ) ซึ่งเป็นสายประชานิยมและพรรคโปเดมอส ซึ่งเป็นพรรคซ้ายจัด แต่ผู้สนับสนุนพรรคพีเอสโออีส่วนใหญ่ไม่ต้องการการร่วมรัฐบาลกับพรรคพีพีThe issue of Catalan independence looms large with parties split over whether to be soft or tough on the separatist movement #EleccionesGenerales28A pic.twitter.com/4DXQXhD3W2— Al Jazeera English (@AJEnglish) April 28, 2019
กระนั้นความเปลี่ยนแปลงที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจและจับตามากที่สุด คือการที่พรรค "ว็อกซ์" ซึ่งเป็นพรรคการเมืองขวาจัดก่อตั้งเมื่อเดือนธ.ค. 2556 สร้างประวัติศาสตร์เข้าสู่สภาล่างได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นสุดยุคเผด็จการในสเปน ภายใต้การปกครองของนายพลฟรันซิสโก ฟรังโก ระหว่างปี 2482 ถึง 2518 โดยได้รับการเลือกตั้งเข้ามา 24 ที่นั่ง ซึ่งชัยชนะของพรรคว็อกซ์อาจมีผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลในอนาคต เนื่องจากมีการวิเคราะห์ว่าประชาชนในแคว้นกาตาลุญญาจำนวนไม่น้อยลงคะแนนให้กับพรรคนี้ มากกว่าพรรคท้องถิ่นที่เป็นชาวกาตาลุญญาแท้เสียอีก บ่งชี้ว่านอกเหนือจากประเด็นเศรษฐกิจที่ยังคงต้องแก้ไขกันต่อเนื่องแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกลางในกรุงมาดริดกับแคว้นกาตาลุญญาซึ่งยังคงต้องการแบ่งแยกดินนั้นเป็น "งานหนัก" ของซานเชซ.เครดิตภาพ : AP,REUTERS
