ข่าวทรัมป์ห่วงวิกฤติโรคหัดในสหรัฐ เตือนประชาชนฉีดวัคซีน - kachon.com

ทรัมป์ห่วงวิกฤติโรคหัดในสหรัฐ เตือนประชาชนฉีดวัคซีน
ต่างประเทศ

photodune-2043745-college-student-s
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันศุกร์ เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคหัดในสหรัฐ ซึ่งศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค ( ซีดีซี ) รายงานการพบผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ต้นปีนี้แล้วเกือบ 700 คน ใน 22 รัฐ นับเป็นสถิติสูงที่สุดทั้งที่กระทรวงสาธารณสุขเคยประกาศให้โรคหัดหมดไปจากประเทศเมื่อปี 2543 ว่า "การฉีดวัคซีนเป็นเรื่องสำคัญมาก" ทุกคนไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กในตอนนี้ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบตามคำแนะนำของแพทย์
 

 
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐรณรงค์ให้เด็กเล็กต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด โรคคางทูมและโรคหัดเยอรมัน ก่อนอายุครบ 3 ปี อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากลับเกิดการเผยแพร่ "ลัทธิต่อต้านการฉีดวัคซีน" ซึ่งเป็นที่น่าประหลาดใจว่าพบมากในประเทศพัฒนาแล้วทั้งทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม โดยสหรัฐเป็นอันดับ 1 ที่รายงานขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ระบุว่าในส่วนของการป้องกันโรคหัดนั้น มีเด็กอเมริกันมากกว่า 2.5 ล้านคนยังไม่เคยได้รับวัคซีนโดสแรก รองลงมาคือฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร ด้วยสถิติ 600,000 คน และ 500,000 คนตามลำดับ

 

 
ในเวลาเดียวกัน มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาแขตลอสแอนเจลิส ( ยูซีแอลเอ ) และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียสเตท วิทยาเขตลอสแอนเจลิสเช่นกัน ( แคลสเตทแอลเอ ) รายงานการกักบริเวณนักศึกษาและเจ้าหน้าที่รวมกันมากกว่า 1,000 คน โดยแถลงการณ์ของแคลสเตทแอลเอเผยว่าพบผู้ต้องสงสัยป่วยด้วยโรคหัดที่ห้องสมุดแห่งหนึ่งของมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา ส่วนแถลงการณ์ของยูซีแอลเอให้ข้อมูลเพียงว่าเริ่มควบคุมสถานการณ์ได้ และหากเป็นไปได้จะยุติมาตรการกักบริเวณผู้ต้องสงสัยติดเชื้อภายในวันอังคารที่ 30 เม.ย.นี้ แต่มหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งให้ข้อมูลว่าในระหว่างนี้มีผู้ได้รับการยืนยันว่าปลอดเชื้อได้รับอนุญาตให้ออกจากพื้นที่กักบริเวณแล้วหลายร้อยคน.

เครดิตภาพ : AP,AFP