ศรีลังกายอมรับหน่วยข่าวกรอง "ทำงานพลาดครั้งใหญ่"
ต่างประเทศ
ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 58 คน เป็นชาวศรีลังกาทั้งหมด ในเวลาเดียวกันมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่ทุกแห่งในประเทศยังอยู่ในระดับสูงสุดภายใต้คำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด ( อีโอดี ) กระจายกำลังตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยที่หลายชิ้นเป็นระเบิดและจัดการปลดชนวนได้ โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมความเสียหายให้อยู่ในวงจำกัดและไม่มีประชาชนได้รับอันตราย
ต่อข้อซักถามเกี่ยวกับการทำงานของหน่วยข่าวกรอง วิเจวาร์เดเน ยอมรับว่ามี "ความผิดพลาดครั้งใหญ่" ในเรื่อง "การประสานงาน" โดยรายงานของสื่อท้องถิ่นหลายแห่งระบุว่า ว่าหน่วยข่าวกรองของศรีลังกาได้รับ "ข้อมุลแจ้งแนวโน้มการเกิดเหตุไม่ปกติ" จากหน่วยข่าวกรองอินเดีย และส่งรายงานไปยังกระทรวงกลาโหมเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา ต่อจากนั้นกระทรวงกลาโหมส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งกระจายข่าวต่อให้กับหน่วยงานย่อยในสังกัดเมื่อวันที่ 11 เม.ย. โดยข้อมูลที่มีการแจ้งเตือนกันเป็นการภายในรวมถึงเบาะแสจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐและอินเดีย เกี่ยวกับ "ความเป็นไปได้" ในการก่อวินาศกรรมของกลุ่มเตาฮีธ จามาอัธแห่งชาติ ( เอ็นทีเจ ) และรายชื่อบุคคลต้องสงสัยเป็นสมาชิกของกลุ่มด้วย
ทั้งนี้ วิเจวาร์เดเนยืนยันว่า "รัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างสุดความสามารถ" หลังก่อนหน้านั้นประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนา ประกาศเตรียมยกเครื่องหน่วยข่าวกรองและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ "ครั้งใหญ่" ในเร็ววันนี้ ขณะเดียวกัน วิเจวาร์เดเนให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมือระเบิดฆ่าตัวตายว่ามี 9 คนหนึ่งในนั้นเป็นหญิง และคนร้าย 8 คนถือสัญชาติศรีลังกา แทบทุกคนมาจากครอบครัวมีฐานะและจบการศึกษาจากต่างประทเศรวมถึงสหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย ซึ่งศรีลังกาได้ประสานงานไปยังทั้งสองประเทศให้ช่วยตรวจสอบภูมิหลังของคนร้ายแล้ว.
เครดิตภาพ : AP,REUTERS