ศรีลังกายกเลิกเคอร์ฟิว ผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีเพิ่มไม่หยุด
ต่างประเทศ
Webmaster
2019-04-22 12:00:00
19
Webmaster
2019-04-22 12:00:00
19
-
สนับสนุนเนื่อหา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ว่าสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ ออกแถลงการณ์เรื่องการกลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้วเมื่อวันจันทร์ หลังรัฐบาลศรีลังกาประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวเมื่อเวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมงครึ่ง อย่างไรก็ตาม หากชาวไทยประสงค์สอบถามข้อมูลหรือติดต่อขอความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ( 94 ) 77 307 0748
ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของศรีลังการายงานการจับกุมผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับเหตุวินาศกรรม ที่เป็นการระเบิดฆ่าตัวตายและลอบวางระเบิดโจมตีสถานที่สำคัญ 8 แห่งในกรุงโคลัมโบ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงของการเฉลิมฉลองและประกอบศาสนพิธีในเทศกาลอีสเตอร์ ได้แก่โบสถ์ 3 แห่ง ในเขตเนกอมโบ บัตติกาลัว และค็อกชิคาเด โรงแรมหรู 3 แห่ง ได้แก่ แชงกรี-ลา คิงส์บิวรี และซินนามอน แกรนด์ นอกจากนี้ยังมีระเบิดใกล้กับสวนสัตว์เดฮีวาลา และบ้านหลังหนึ่งในเขตเดมาตาโกดา ซึ่งสถานที่แห่งนี้ตำรวจเชื่อว่าเป็นหนึ่งในแหล่งกบดานของคนร้าย ซึ่งเมื่อมีการบุกจู่โจม ผู้ที่อยู่ภายในจุดชนวนระเบิดทันที สังหารเจ้าหน้าที่ 3 นาย
ด้านจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นอย่างน้อย 290 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติประมาณ 30 คน และจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเป็นมากกว่า 500 คน นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห กล่าวถึงการจำกัดการเข้าถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์ทุกประเภทในประเทศเป็นการชั่วคราวไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือ วอท์สแอปป์ ว่าเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของข่วปลอมและข้อมูลเท็จที่อาจสร้างความสับสน ความตื่นตระหนกและเข้าใจผิดให้แก่ประชาชน ตลอดจนการป้องกันการปลุกระดม
นอกจากนี้ วิกรมสิงเหกล่าวถึงการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ รักษาการสถานที่สำคัญทางศาสนาทุกศาสนา และ "เป้าหมายอ่อน" ทั่วประเทศ พร้อมทั้งเผยถึงรายงานว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงได้รับแจ้งล่วงหน้า 10 วัน ว่า "อาจเกิดเหตุร้าย" ว่า "เขาไม่ได้รับรายงานชัดเจน" และหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงกำลังเร่งตรวจสอบเรื่องนี้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยให้ได้ "ทั้งหมด" เสียก่อน การให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิต ซึ่งมีรายงานหนึ่งในผู้ที่ได้รับการยืนยันเอกลักษณ์บุคคลเป็นรายแรก คือนางชันธา มายาดุนดน หนึ่งในเชฟชื่อดังของศรีลังกา และเธอทำงานอยู่ที่โรงแรมแชง-กรีลาด้วย
ในเวลาเดียวกัน มีรายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวในกองทัพศรีลังกา ว่าเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด ( อีโอดี ) สามารถปลดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง ( ไออีดี ) ซึ่งทำจากท่อน้ำประปาความยาวประมาณ 1.8 เมตร บนถนนสายหนึ่งซึ่งมุ่งหน้าเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร ของท่าอากาศยานนานาชาติบันดารานายาเก โดยปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และไม่มีผู้ใดเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุยังไม่มีบุคคลกลุ่มใดออกมารับผิดชอบ แต่เหตุวินาศกรรมที่นายรูวาน วีเจวาร์เดลา รมว.กระทรวงกลาโหมของศรีลังกา กล่าวว่า "เป็นการก่อการร้ายโดยกลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนา" เกิดขึ้น 10 ปีพอดี หลังรัฐบาลประกาศชัยชนะเหนือกองทัพพยัคฆ์ปลดปล่อยทมิฬอีแลม ในการทำสงครามกลางเมืองยาวนานระหว่างปี 2526 ถึง 2552 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตประมาณ 100,000 คน.
เครดิตภาพ : REUTERS,AFP,AP
ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของศรีลังการายงานการจับกุมผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับเหตุวินาศกรรม ที่เป็นการระเบิดฆ่าตัวตายและลอบวางระเบิดโจมตีสถานที่สำคัญ 8 แห่งในกรุงโคลัมโบ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงของการเฉลิมฉลองและประกอบศาสนพิธีในเทศกาลอีสเตอร์ ได้แก่โบสถ์ 3 แห่ง ในเขตเนกอมโบ บัตติกาลัว และค็อกชิคาเด โรงแรมหรู 3 แห่ง ได้แก่ แชงกรี-ลา คิงส์บิวรี และซินนามอน แกรนด์ นอกจากนี้ยังมีระเบิดใกล้กับสวนสัตว์เดฮีวาลา และบ้านหลังหนึ่งในเขตเดมาตาโกดา ซึ่งสถานที่แห่งนี้ตำรวจเชื่อว่าเป็นหนึ่งในแหล่งกบดานของคนร้าย ซึ่งเมื่อมีการบุกจู่โจม ผู้ที่อยู่ภายในจุดชนวนระเบิดทันที สังหารเจ้าหน้าที่ 3 นาย
ด้านจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นอย่างน้อย 290 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติประมาณ 30 คน และจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเป็นมากกว่า 500 คน นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห กล่าวถึงการจำกัดการเข้าถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์ทุกประเภทในประเทศเป็นการชั่วคราวไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือ วอท์สแอปป์ ว่าเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของข่วปลอมและข้อมูลเท็จที่อาจสร้างความสับสน ความตื่นตระหนกและเข้าใจผิดให้แก่ประชาชน ตลอดจนการป้องกันการปลุกระดม
นอกจากนี้ วิกรมสิงเหกล่าวถึงการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ รักษาการสถานที่สำคัญทางศาสนาทุกศาสนา และ "เป้าหมายอ่อน" ทั่วประเทศ พร้อมทั้งเผยถึงรายงานว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงได้รับแจ้งล่วงหน้า 10 วัน ว่า "อาจเกิดเหตุร้าย" ว่า "เขาไม่ได้รับรายงานชัดเจน" และหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงกำลังเร่งตรวจสอบเรื่องนี้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยให้ได้ "ทั้งหมด" เสียก่อน การให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิต ซึ่งมีรายงานหนึ่งในผู้ที่ได้รับการยืนยันเอกลักษณ์บุคคลเป็นรายแรก คือนางชันธา มายาดุนดน หนึ่งในเชฟชื่อดังของศรีลังกา และเธอทำงานอยู่ที่โรงแรมแชง-กรีลาด้วย
ในเวลาเดียวกัน มีรายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวในกองทัพศรีลังกา ว่าเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด ( อีโอดี ) สามารถปลดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง ( ไออีดี ) ซึ่งทำจากท่อน้ำประปาความยาวประมาณ 1.8 เมตร บนถนนสายหนึ่งซึ่งมุ่งหน้าเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร ของท่าอากาศยานนานาชาติบันดารานายาเก โดยปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และไม่มีผู้ใดเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุยังไม่มีบุคคลกลุ่มใดออกมารับผิดชอบ แต่เหตุวินาศกรรมที่นายรูวาน วีเจวาร์เดลา รมว.กระทรวงกลาโหมของศรีลังกา กล่าวว่า "เป็นการก่อการร้ายโดยกลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนา" เกิดขึ้น 10 ปีพอดี หลังรัฐบาลประกาศชัยชนะเหนือกองทัพพยัคฆ์ปลดปล่อยทมิฬอีแลม ในการทำสงครามกลางเมืองยาวนานระหว่างปี 2526 ถึง 2552 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตประมาณ 100,000 คน.
เครดิตภาพ : REUTERS,AFP,AP
