กองทัพซูดานยืนยันการจัดตั้ง "รัฐบาลพลเรือน"
ต่างประเทศ
Webmaster
2019-04-14 07:52:00
19
Webmaster
2019-04-14 07:52:00
19
-
สนับสนุนเนื่อหา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาร์ทูม ประเทศซูดาน เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ว่าพล.ท.อับเดล ฟัตตาห์ อับเดลราห์มาน ประธานคณะมนตรีด้านการถ่ายโอนอำนาจของกองทัพซูดาน แถลงเมื่อวันเสาร์ ยกเลิกเคอร์ฟิวที่เคยประกาศไว้ระหว่างเวลา 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นจนถึง 04.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันต่อไป ( 19.00 น. ถึง 01.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) ยกเลิกการปิดพรมแดนทั้งทางบกและทางอากาศ และการปล่อยตัวนักโทษการเมือง ตลอดจนกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งถูกจับกุมตลอดช่วงเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินที่ประกาศโดยรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาเชียร์ จนกระทั่งถึงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
พล.ท.อับเดล ฟัตตาห์ อับเดลราห์มาน ประธานคณะมนตรีด้านการถ่ายโอนอำนาจของกองทัพซูดาน
ขณะเดียวกัน พล.ท.อับเดลราห์มานประกาศ "ปรับโครงสร้าง" สถาบันฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติทั้งหมด "ภายในกรอบของรัฐธรรมนูญ" และให้คำมั่นเรื่องการ "ขุดรากถอนโคน" การคอร์รัปชั่นซึ่งกัดกร่อนและเป็นอุปสรรคต่อการบริหารบ้านเทืองมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้ พล.ท.อับเดลราห์มานยังเป็นประธานจัดการประชุมระหว่าง ประธานคณะมนตรีด้านการถ่ายโอนอำนาจของกองทัพกับผู้แทนของภาคประชาชนที่รวมถึงพรรคการเมืองฝ่ายค้าน และสมาคมนักวิชาการซูดาน ( เอสพีเอ ) ซึ่งเรียกร้องการปรับโครงสร้างสำนักงานความมั่นคงและข่าวกรองแห่งชาติ ( เอ็นไอเอสเอส ) และการยุบกองกำลังทหารพราน ที่ก่อตั้งในยุคของบาเชียร์ซึ่งครองอำนาจนานถึง 30 ปี และการจับกุม "แกนนำการคอร์รัปชั่น" ทุกคน ตลอดจนการจัดตั้งคณะมนตรีหรือหน่วยงานที่เป็นพลเรือนเต็มรูปแบบ "และมีความเป็นกลาง" บริหารประเทศในช่วงของการถ่ายโอนอำนาจ
ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องดังกล่าวสะท้อนว่าประชาชนจำนวนไม่น้อยต้องการให้กระบวนการถ่ายโอนอำนาจ "ตามระบอบประชาธิปไตย" เกิดขึ้นเร็วกว่านี้ หลังในคราวแรกกองทัพประกาศระยะเวลา 2 ปีที่ได้รับเสียงวิจารณ์ว่านานเกินไป อีกทั้งหลายฝ่ายยังมี "ความสงสัย" ในตัวสมาชิกคณะรัฐประหารบางคน โดยเฉพาะพล.ท. อาวาด อิบนูฟ รมว.กระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีในซูดานว่ามีความสนิทสนมกับบาเชียร์ ซึ่งมีหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ ( ไอซีซี ) ติดตัว
ในเวลาเดียวกัน มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน และได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน จากการปะทะระหว่างผู้ประท้วงบางส่วนกับทหาร นับตั้งแต่วันที่กองทัพโค่นอำนาจบาเชียร์ เมื่อวันพฤหัสบดี โดยซูดานเป็นประเทศที่มีสถิติการเกิดรัฐประหารมากที่สุดในโลกเกินกว่า 30 ครั้งแล้ว.
เครดิตภาพ : REUTERS,AP
พล.ท.อับเดล ฟัตตาห์ อับเดลราห์มาน ประธานคณะมนตรีด้านการถ่ายโอนอำนาจของกองทัพซูดานขณะเดียวกัน พล.ท.อับเดลราห์มานประกาศ "ปรับโครงสร้าง" สถาบันฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติทั้งหมด "ภายในกรอบของรัฐธรรมนูญ" และให้คำมั่นเรื่องการ "ขุดรากถอนโคน" การคอร์รัปชั่นซึ่งกัดกร่อนและเป็นอุปสรรคต่อการบริหารบ้านเทืองมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้ พล.ท.อับเดลราห์มานยังเป็นประธานจัดการประชุมระหว่าง ประธานคณะมนตรีด้านการถ่ายโอนอำนาจของกองทัพกับผู้แทนของภาคประชาชนที่รวมถึงพรรคการเมืองฝ่ายค้าน และสมาคมนักวิชาการซูดาน ( เอสพีเอ ) ซึ่งเรียกร้องการปรับโครงสร้างสำนักงานความมั่นคงและข่าวกรองแห่งชาติ ( เอ็นไอเอสเอส ) และการยุบกองกำลังทหารพราน ที่ก่อตั้งในยุคของบาเชียร์ซึ่งครองอำนาจนานถึง 30 ปี และการจับกุม "แกนนำการคอร์รัปชั่น" ทุกคน ตลอดจนการจัดตั้งคณะมนตรีหรือหน่วยงานที่เป็นพลเรือนเต็มรูปแบบ "และมีความเป็นกลาง" บริหารประเทศในช่วงของการถ่ายโอนอำนาจ
ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องดังกล่าวสะท้อนว่าประชาชนจำนวนไม่น้อยต้องการให้กระบวนการถ่ายโอนอำนาจ "ตามระบอบประชาธิปไตย" เกิดขึ้นเร็วกว่านี้ หลังในคราวแรกกองทัพประกาศระยะเวลา 2 ปีที่ได้รับเสียงวิจารณ์ว่านานเกินไป อีกทั้งหลายฝ่ายยังมี "ความสงสัย" ในตัวสมาชิกคณะรัฐประหารบางคน โดยเฉพาะพล.ท. อาวาด อิบนูฟ รมว.กระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีในซูดานว่ามีความสนิทสนมกับบาเชียร์ ซึ่งมีหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ ( ไอซีซี ) ติดตัว
ในเวลาเดียวกัน มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน และได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน จากการปะทะระหว่างผู้ประท้วงบางส่วนกับทหาร นับตั้งแต่วันที่กองทัพโค่นอำนาจบาเชียร์ เมื่อวันพฤหัสบดี โดยซูดานเป็นประเทศที่มีสถิติการเกิดรัฐประหารมากที่สุดในโลกเกินกว่า 30 ครั้งแล้ว.
เครดิตภาพ : REUTERS,AP
