เอกวาดอร์จับบุคคลใกล้ชิด "จูเลียน แอสซานจ์"
ต่างประเทศ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของสหราชอาณาจักรนำตัวแอสซานจ์ โปรแกรมเมอร์และแฮกเกอร์ชาวออสเตรเลีย วัย 47 ปี ออกจากสถานเอกอกัครราชทูตเอกวาดอร์ประจำกรุงลอนดอน ซึ่งแอสซานจ์เข้าไปลี้ภัยตั้งแต่ปี 2555 จากการตกเป็นผู้ต้องหาในคดีล่วงละเมิดทางเพศ ที่เจ้าตัวประกาศว่า “เป็นคดีการเมือง” แม้ต่อมาศาลยกฟ้องข้อกล่าวหาทั้งหมด แต่มีรายงานว่าผู้เสียหายเรียกร้องให้พนักงานสอบสวนรื้อฟื้นคดีแล้ว หลังมีการจับกุมแอสซานจ์สำเร็จ และตอนนี้เชื่อว่าถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำวานด์สเวิร์ธ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน
ขณะที่กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐเปิดเผยสำนวนคำฟ้องต่อแอสซานจ์ ยื่นต่อศาลแขวงรัฐบาลกลางเขตเวอร์จิเนียตะวันออก เมื่อต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ฐานสมคบคิดกับน.ส.เชลซี แมนนิง หรืออดีตพลทหารแบรดลีย์ แมนนิง จารกรรมข้อมูลลับด้านความมั่นคงเข้าสู่ฐานระบบของวิกิลีกส์ ที่แอสซานจ์ก่อตั้งเมื่อปี 2549 โดยเฉพาะความมั่นคงทางทหารของสหรัฐในอิรักและอัฟกานิสถาน และการเผยแพร่เอกสารการทูตของรัฐบาลวอชิงตันหรือ "เคเบิล" ที่เต็มไปด้วยข้อมูลอ่อนไหว ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อความมั่นคงของสหรัฐ และหลายฝ่ายเชื่อว่ารัฐบาลวอชิงตันจะตั้งข้อหาต่อแอสซานจ์เพิ่มอีก หากสหราชอาณาจักรส่งตัวแอสซานจ์มายังสหรัฐในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน
อย่างไรก็ตาม นายนิลส์ เมลเซอร์ ที่ปรึกษาพิเศษของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ด้านการทรมานและการดูแลผู้ต้องหาที่ต่ำกว่ามาตรฐาน กล่าวแสดงความวิตกกังวลว่าแอสซานจ์อาจไม่ได้รับการไต่สวนและการดูแล “ที่เป็นธรรม” ในสหรัฐ และวิจารณ์การที่เอกวาดอร์เพิกถอนสถานะผู้ลี้ภัยและสิทธิคุ้มครองของแอสซานจ์ เข้าข่ายละเมิดพิธีการทูตและบรรทัดฐานระหว่างประเทศ ทั้งนี้ เมลเซอร์กล่าวว่ารัฐบาลวอชิงตันยังไม่สามารถการันตี “ความโปร่งใส” เรื่องกระบวนการไต่สวน โดยเฉพาะกับผู้ต้องหาคดีความมั่นคงและก่อการร้าย ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกวนตานาโม.
เครดิตภาพ : AFP