ข่าวกองทัพซูดานประกาศเคอร์ฟิว ยันถ่ายโอนอำนาจภายใน 2 ปี - kachon.com

กองทัพซูดานประกาศเคอร์ฟิว ยันถ่ายโอนอำนาจภายใน 2 ปี
ต่างประเทศ

photodune-2043745-college-student-s
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาร์ทูม ประเทศซูดาน เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ว่าพล.ท. อาวาด อิบนูฟ รมว.กระทรวงกลาโหมของซูดานและประธานคณะมนตรีด้านการถ่ายโอนอำนาจของกองทัพ แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ เมื่อคืนวันพฤหัสบดี ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นจนถึง 04.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันต่อไป ( 19.00 น. ถึง 01.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย )  "อย่างไม่มีกำหนด"  เช่นเดียวกับการปิดพรมแดนและปิดน่านฟ้า "เป็นการชั่วคราว" ขณะเดียวกัน พล.ท.อิบนูฟกล่าวถึงกำหนดระยะเวลาถ่ายโอนอำนาจจากทหารสู่พลเรือนผ่านการเลือกตั้งครั้งใหม่ "จะเกิดขึ้นภายใน 2 ปี" และยืนยันว่าตอนนี้ "อดีตประธานาธิบดี" อยู่ในสถานที่ปลอดภัยและไม่ได้รับอันตรายใด
 


พล.ท. อาวาด อิบนูฟ รมว.กระทรวงกลาโหมของซูดานและประธานคณะมนตรีด้านการถ่ายโอนอำนาจ แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ

แม้กองทัพเตือนประชาชนว่า "ไม่ควรฝ่าฝืนเคอร์ฟิว" แต่ยังคงมีฝ่ายสนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาเชียร์ ยังคงออกมาชุมนุมกันตามท้องถนนและรวมตัวหน้าอาคารกระทรวงกลาโหมในกรุงคาร์ทูม ส่วนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลพากันออกมาเฉลิมฉลอง แต่ยังไม่มีรายงานว่ามีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ โดยการรัฐประหารของกองทัพซูดานในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังการประท้วงยืดเยื้อข้ามปีของประชาชน ซึ่งมีชนวนเริ่มต้นเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้วจากปัญหาค่าครองชีพ แล้วบานปลายกลายเป็นการเรียกร้องให้บาเชียร์วัย 75 ปี ซึ่งอยู่ในตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2532 และยังมีหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ ( ไอซีซี ) ติดตัว ให้สละอำนาจ
 


 
ขณะที่นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) กล่าวแสดงความหวังว่า "กระบวนการถ่ายโอนอำนาจ" ตามคำกล่าวกองทัพซซูดาน จะเป็นไปตาม "แนวทางประชาธิปไตย" ซึ่งสงบเรียบร้อยสอดคล้องกับความรารถนาของชาวซูดาน ด้านสหภาพยุโรป ( อียู ) ออกแถลงการณ์เรียกร้องว่ากองทัพควรคืนอำนาจให้แก่ประชาชน "เร็วที่สุด" ส่วนระทรวงการต่างประเทศสหรัฐยังไม่แสดงท่าทีเรื่องการรัฐประหารในซูดานมากนัก แต่สั่งอพยพเจ้าหน้าที่การทูตบางส่วนกลับประเทศ และยกระดับการเตือนภัยพลเมืองในการเดินทางเยือนซูดาน พร้อมทั้งขอให้ประชาชนซึ่งยังอาศัยอยู่ในซูดานเพิ่มความระมัดระวังในการดำเนินชีวิต.

เครดิตภาพ : AFP,AP,REUTERS