สองพรรคใหญ่อิสราเอล "ประกาศชัยชนะ" ในศึกเลือกตั้ง
ต่างประเทศ
ทั้งนี้ หากแนวโน้มเป็นเช่นนี้ไปจนกระทั้งผลการนับคะแนนออกมาอย่างเป็นทางการ หมายความว่าทั้งสองพรรคมีโอกาสรวบรวมคะแนนเสียงจากพรรคขนาดเล็กกว่าในการจัดตั้งรัฐบาล แต่คะแนนเสียงจากพรรคพันธมิตรฝ่ายขวาเดิมของเนทันยาฮูจะช่วยรวมเสียงให้ได้เป็นระหว่าง 60 ถึง 66 ที่นั่ง เฉือนพันธมิตรสายกลาง-ซ้ายของพล.ท.กันต์ซ ซึ่งจะมีเสียงรวมระหว่าง 54 ถึง 60 ที่นั่ง
อย่างไรก็ตาม ทั้งเนทันยาฮูและพล.ท.กันต์ซต่างประกาศชัยชนะ โดยพล.ท.กันต์ซกล่าวว่า "เป็นวันประวัติศาสตร์" ของกลุ่มการเมืองฝ่ายซ้าย และแสดงความเชื่อมั่นว่าจะได้รับการอนุมัติจากประธานาธิบดีรูเวน ริฟลิน ให้ได้รับสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาลก่อน ขณะที่เนทันายาฮูกล่าวว่าเขาจะยังคงเป็น "นายกรัฐมนตรีของชาวอิสราเอลทุกคน" ต่อไป และยืนยันว่าพรรคลิคุดและพรคพันธมิตร "คือผู้ชนะ" พร้อมทั้งขอบคุณความไว้วางใจจากชาวอิสราเอล ซึ่งในกรณีที่พรรคลิคุดนำพรรคขนาดเล็กรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ จะสร้างประวัติศาตร์ให้เนทันยาฮู วัย 69 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 5 และเป็นการอยู่ในวาระยาวนานที่สุดของอิสราเอล แม้ไม่ต่อเนื่องกันก็ตาม แต่ทำลายสถิติของนายเดวิด เบนกูรีออน นายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศ
นางเรวิทัล กันต์ซ และพล.ท.เบนนี กันต์ซ ใช้สิทธิ์ที่เมืองรอช ฮาอายิน ทางตอนกลางของอิสราเอล
ด้านรัฐบาลปาเลสไตน์ไม่แสดง "ความสนใจ" มากนักต่อการเลือกตั้งของอิสราเอลในครั้งนี้ เนื่องจากทั้งสองพรรคมีนโยบายคล้ายกันในประเด็นความสัมพันธ์กับปาเลสไตน์ นั่นคือการไม่ยอมรับ "แนวทางสองรัฐ" ของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) โดยนายซาเอ็บ เอเรกัต เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลปาเลสไตน์และองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ ( พีแอลโอ ) กล่าวว่าไม่ว่าพรรคใดจะเป็นฝ่ายชนะ ผลคะแนนที่ออกมาบ่งชี้ว่า อิสราเอล "ไม่เคยต้องการสันติภาพ" กับปาเลสไตน์.
เครดิตภาพ : AP,AFP