ทรัมป์ยกเครื่องฝ่ายบริหาร "ซีเครตเซอร์วิส"
ต่างประเทศ
บุคคลที่จะพ้นจากตำแหน่งเป็นคนต่อไป คือนายแรนดอล์ฟ อัลเลส จากตำแหน่งผู้อำนวยการหน่วยอารักขาบุคคลสำคัญหรือ "ซีเครต เซอร์วิส" โดยอัลเลสวัย 65 ปี ซึ่งเคยรับราชการในกองกำลังนาวิกโยธินนานถึง 35 ปี และรับตำแหน่งผู้อำนวยการซีเครต เซอร์วิส คนที่ 35 เมื่อเดือนเม.ย. 2560 จะพ้นจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนพ.ค. นี้ และผู้ที่จะขึ้นมารับตำแหน่งแทนคือนายเจมส์ เมอร์เรย์ ซึ่งเคยทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าหน่วยซีเครต เซอร์วิส สาขากรุงวอชิงตัน เมื่อช่วงปี 2558
ขณะเดียวกัน นางแคลร์ เกรดี รมช.กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เตรียมขอลาออกจากตำแหน่ง ท่ามกลางกระแสวิจารณ์และข้อสงสัยว่า "ตามธรรมเนียม" เธอควรได้รับหน้าที่รักษาการในตำแหน่งของนีลเซนมากกว่า แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเกรดีจะลาออกด้วยเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่
แม้รายงานบางกระแสระบุว่าอัลเลนกับทรัมป์ "มีความขัดแย้งส่วนตัว" แต่หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่าการปรับโครงสร้างการทำงานของซีเครต เซอร์วิสในครั้งนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับการที่หญิงสาวชาวจีนชื่อ "น.ส.จาง ยู่จิง" สัญชาติจีน อายุ 32 ปี ซึ่งพก "อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก" รวมถึงสมาร์ทโฟน 4 เครื่อง สามารถเข้าไปถึงพื้นที่ภายในของรีสอร์ตมาร์-อา-ลาโก ซึ่งเป็นสถานที่พักตากอากาศช่วงสุดสัปดาห์หรือวันหยุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในรัฐฟลอริดา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และศาลให้ควบคุมตัวเธอไว้ก่อนจนถึงสัปดาห์หน้า แต่มีรายงานว่าหญิงสาวมีหนังสือเดินทางจีน 2 เล่ม ด้านสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันเผยเพียง "ดำเนินการช่วยเหลือด้านกงสุล" ตามความเหมาะสม.
เครดิตภาพ : REUTERS,AFP