สหรัฐกำลังจะส่งออกน้ำมันมากกว่านำเข้า
ต่างประเทศ
Webmaster
2019-03-11 20:16:00
46
Webmaster
2019-03-11 20:16:00
46
-
สนับสนุนเนื่อหา
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ว่า แถลงการณ์ของนายฟาติห์ บิรอล ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ หรือ ไออีเอ กล่าวว่า คลื่นลูกที่ 2 ของการปฏิวัติหินน้ำมันสหรัฐกำลังมาถึง เทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้สามารถขุดเจาะน้ำมันและก๊าซจากชั้นหินดินดาน ทำให้การผลิตน้ำมันในสหรับเฟื่องฟูในระยะหลายปีที่ผ่านมา และด้วยค่าใช้จ่ายการผลิตต่ำ ภาวะเฟื่องฟูจะดำเนินต่อไป
ไออีเอทำนายว่า สหรับจะครองส่วนแบ่ง 2 ใน 3 ของการผลิตน้ำมันทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น และประมาณ 75 % ของการขยายตัวของการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี)ในระยะ 5 ปีข้างหน้า ซึ่งนี่จะทำให้สหรัฐแซงหน้ารัสเซีย ขึ้นเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากซาอุดีอาระเบีย
บิรอลกล่าวว่า พัฒนาการของสหรัฐจะสั่นสะเทือนวงการค้าน้ำมันและก๊าซระหว่างประเทศ และมีความเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งต่อภูมิศาสตร์การเมืองของพลังงาน
การผลิตหินน้ำมันพุ่งสูงของสหรัฐ เป็นหนึ่งในปัจจัยหลัก ที่ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกดิ่งลงในปี 2557 ซึ่งหลังจากนั้นอุตสาหกรรมน้ำมันกำลังเพิ่งฟื้นตัว
รายงานของไออีเอ ระบุว่า การผลิตนอกกลุ่มโอเปกจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะสูงขึ้นอีก 6.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นวันละ 68.7 ล้านบาร์เรล ในปี 2567
นอกเหนือจากสหรัฐแล้ว คาดว่าบราซิลและนอร์เวย์จะผลิตมากขึ้นเช่นกัน ส่วนโอเปกคาดว่าการผลิตจะลดลงในปี 2562 และ 2563 ก่อนจะขยายพอประมาณที่ระดับ 32 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2567
ไออีเอคาดว่า ผลผลิตน้ำมันทั่วโลกโดยรวมจะสูงขึ้นวันละ 5.9 ล้านบาร์เรล ภายในปี 2567 โดยผลผลิตของอิหร่านจะลดลงจากพิษคว่ำบาตรของสหรัฐ เช่นเดียวกับเวเนซุเอลา จากผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจในประเทศ
จีนและอินเดียจะยังครองส่วนแบ่งเกือบครึ่ง ของความต้องการบริโภคน้ำมันเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยคาดว่าความต้องการจะสูงขึ้น 7.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็น 106.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2567.
ภาพ - REUTERS
ไออีเอทำนายว่า สหรับจะครองส่วนแบ่ง 2 ใน 3 ของการผลิตน้ำมันทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น และประมาณ 75 % ของการขยายตัวของการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี)ในระยะ 5 ปีข้างหน้า ซึ่งนี่จะทำให้สหรัฐแซงหน้ารัสเซีย ขึ้นเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากซาอุดีอาระเบีย
บิรอลกล่าวว่า พัฒนาการของสหรัฐจะสั่นสะเทือนวงการค้าน้ำมันและก๊าซระหว่างประเทศ และมีความเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งต่อภูมิศาสตร์การเมืองของพลังงาน
การผลิตหินน้ำมันพุ่งสูงของสหรัฐ เป็นหนึ่งในปัจจัยหลัก ที่ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกดิ่งลงในปี 2557 ซึ่งหลังจากนั้นอุตสาหกรรมน้ำมันกำลังเพิ่งฟื้นตัว
รายงานของไออีเอ ระบุว่า การผลิตนอกกลุ่มโอเปกจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะสูงขึ้นอีก 6.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นวันละ 68.7 ล้านบาร์เรล ในปี 2567
นอกเหนือจากสหรัฐแล้ว คาดว่าบราซิลและนอร์เวย์จะผลิตมากขึ้นเช่นกัน ส่วนโอเปกคาดว่าการผลิตจะลดลงในปี 2562 และ 2563 ก่อนจะขยายพอประมาณที่ระดับ 32 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2567
ไออีเอคาดว่า ผลผลิตน้ำมันทั่วโลกโดยรวมจะสูงขึ้นวันละ 5.9 ล้านบาร์เรล ภายในปี 2567 โดยผลผลิตของอิหร่านจะลดลงจากพิษคว่ำบาตรของสหรัฐ เช่นเดียวกับเวเนซุเอลา จากผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจในประเทศ
จีนและอินเดียจะยังครองส่วนแบ่งเกือบครึ่ง ของความต้องการบริโภคน้ำมันเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยคาดว่าความต้องการจะสูงขึ้น 7.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็น 106.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2567.
ภาพ - REUTERS
