ข่าวตร.จราจรอินเดียยกกระจกเตือนสวมหมวกกันน็อก - kachon.com

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงนิวเดลีประเทศอินเดียเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ว่า นายสันทีป ชาฮี ตำรวจจราจรแห่งกรุงนิวเดลี ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่มีถนนสายที่อันตรายที่สุดในโลกสำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่ยอมสวมหมวกนิรภัยหรือหมวกกันน็อก ซึ่งเขาก็เคยมอบหมวกกันน็อกให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อป้องกันอันตราย แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่ได้ผล จนกระทั่งล่าสุดเขาได้พบกับวิธีการใหม่ นั่นคือการยกกระจกเงาสะท้อนให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รู้สึกละอายจากเงาสะท้อนระหว่างชีวิตกับความตาย บนถนนในกรุงนิวเดลี
แม้ว่ากฎหมายจะบังคับใช้ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์จะต้องสวมหมวกกันน็อก แต่กลับเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นคนหนุ่มสาวขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปอย่างไม่สนใจหมวกกันน็อก อย่างมากก็แค่ห้อยไว้หลวมๆบนแขนข้างหนึ่ง แถมยังไม่สะทกสะท้านกับโทษปรับเป็นเงิน 1,000 รูปี(ราว 14 ดอลลาร์สหรัฐหรือ 448 บาท) นอกจากนั้นผู้หญิงที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ยังแทบจะไม่สนใจสวมหมวกกันน็อก บางคนบอกว่าทำให้ผมเสียทรง
ตำรวจจราจรชาฮีบอกว่า สี่ปีที่ผ่านมา เขาพยายามเกลี้ยกล่อมให้คนสวมหมวกกันน็อกแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ประโยชน์ จนกระทั่งวันหนึ่งนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของเพื่อน แล้วเห็นตัวเองในกระจกส่องหลังโดยไม่มีหมวกกันน็อก แล้วเขาก็รู้สึกละอายใจ ซึ่งมันก็ทำให้เขาพบกับแนวคิดว่า หากทำให้คนอื่นๆมองเห็นตัวเองในกระจกแล้วรู้สึกละอายอาจทำให้หันมาสวมหมวกกันน็อกกันได้บ้าง เพราะกระจกไม่เคยโกหก ซึ่งเขาก็ยอมรับว่าแผนนี้เริ่มได้ผล คนขับขี่รถจักรยานยนต์เมื่อเห็นตัวเองในกระจกเงา ก็รู้สึกละอายและกล่าวขอโทษ สัญญาว่าต่อไปหากขับรถจักรยานยนต์ออกถนน ก็จะต้องสวมหมวกกันน็อก
ตำรวจจราจรชาฮีได้เตรียมภาพนิ่งเกี่ยวกับกฎความปลอดภัยด้านจราจรซึ่งจะต้องแสดงให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทราบ เขารู้สึกมีความสุขมากที่แค่กระจกเงาก็สามารถป้องกันการทำผิดได้
รายงานของสหประชาชาติเมื่อปี 2559 ประเมินว่า หมวกกันน็อกสามารถช่วยเหลือให้รอดชีวิตได้จากอุบัติเหตุร้ายแรงราวร้อยละ 42 ส่วนถนนในกรุงนิวเดลีผู้ขับขี่มักจะใจร้อนและเมาแล้วขับก็มีจนเป็นเรื่องปกติ และจักรยานยนต์ซ้อน 4 คนเป็นเรื่องที่เห็นกันโดยทั่วไป ซึ่งเมื่อปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์กว่า 1,600 คน

เครดิตภาพAFP